ราชบุรี - แม่เฒ่าวัย 78 ปี เสียชีวิตหลังฉีด "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มแรกได้เพียง 1 วัน "ลูก-หลาน" สงสัย เหตุผู้ตายเป็นคนแข็งแรง แต่แพทย์ลงความเห็น "ปอดติดเชื้อ" เตรียมหอบหลักฐานร้องหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขอความยุติธรรม
จากกรณีญาตินำร่างไร้วิญญาณของ นางจันทรี อยู่ศรี อายุ 78 ปี ชาว จ.ราชบุรี มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่วัดท้ายเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังเข้าฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็มแรกในวันที่ 13 ก.ค. ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ กทม. แล้วกลับบ้านที่ จ.ราชบุรี มีอาการเวียนหัว อาเจียน ท้องเสีย แขนไม่มีแรง ก่อนจะมาเสียชีวิตในช่วงสายของวันที่ 14 ก.ค. ญาติขอส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลราชบุรี ผลออกเสียชีวิตเพราะ "ปอดติดเชื้อ" ทำญาติไม่เชื่อเพราะผู้เสียชีวิตเป็นคนแข็งแรง เชื่อเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน พร้อมเตรียมนำหลักฐานใบเข้ารับการฉีดวัคซีนร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับผิดชอบ โดยศพของนางจันทรี ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท้ายเมือง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. และประกอบพิธีฌาปนกิจในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ดังมีการเสนอข่าวไปแล้ว พร้อมทั้งได้ร้องเรียนไปยังเทศบาลตำบลหลักเมือง
ด้านนายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียกจากบุตรหลานของผู้เสียชีวิต ทางตนจึงได้ประสานเรื่องร้องเรียกไปยัง น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบสาเหตุของการชีวิต เนื่องจากบุตรหลานและญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน ตนจึงประสานงานไปยัง ส.ส.ราชบุรี ในการติดต่อทาง สสจ.ราชบุรี ในการเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะที่ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 กล่าวว่า ทางญาติผู้ตายคาคว่าจะเสียชีวิตเพราะการฉีดวัคซีน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการฟันธงว่าการฉีดวัคซีนเป็นสาเหตุทำให้ผู้ตายเสียชีวิต เนื่องจากได้ส่งผลชันสูตรไปตรวจสอบอยู่ ซึ่งตนเองเข้ามาเป็นคนกลาง ช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต เพื่อนำเรื่องไปหารือกับทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หากผลตรวจออกมาเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนจะต้องมีการเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตรงนี้ต้องรอเอกสารนำไปประกอบคำร้องของทางญาติ
โดยในช่วงวิกฤตแบบนี้ หลายข่าวอาจทำให้พี่น้องหวาดกลัวและสับสน ตนเองไม่อยากให้ทุกคนพะวง ตื่นตกใจ โดยจะเอากรณีนี้ไปปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำไปศึกษาเพื่อเยียวยากับญาติของผู้เสียชีวิต และอยากฝากถึงรัฐบาลช่วยกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงประชาชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบัน ราชบุรี มีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสูงถึง 160 ราย ซึ่งปัจจุบันมี รพ.สนามอยู่ 4 แห่ง แต่ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย
ขณะที่ น.ส.พิชญาภัค อยู่ศรี หลานสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งผลชันสูตรไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะต้องรอผลอีก 2 เดือน เพื่อที่จะรู้ผลว่า คุณย่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร ซึ่งตนรู้สึกเสียใจ และตั้งตัวไม่ทัน และเหมือนตนเองเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณย่าเสียชีวิต เพราะได้เป็นคนพาคุณย่าไปฉีดวัคซีนที่กรุงเทพฯ
ด้าน นางจินตนา วงษ์สร้อยสน ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนยังคงยืนยันว่า คุณแม่ของตนเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน เพราะที่ผ่านมาคุณแม่เป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง เป็นแค่โรคโลหิตจาง กับโรคกระดูกพรุน ซึ่งการที่คุณแม่เสียชีวิตแบบกะทันหันน่าจะมาจากสาเหตุเดียวคือการฉีดวัคซีน ซึ่งตนเองและญาติพี่น้องอยากได้คำชี้แจงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
"ไม่ได้อยากจะกล่าวโทษวัคซีน แต่อยากฝากเตือนผู้สูงอายุที่จะไปฉีดวัคซีน ให้ไปปรึกษาหมอประจำก่อนว่าสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่" น.ส.พิชญาภัค กล่าวทิ้งท้าย