xs
xsm
sm
md
lg

ลูกสาวเคว้ง! หลังพ่อแม่ดับคาโรงเพาะเห็ด เหลือเพียงตัวเองกับปู่วัย 90 ยังไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - น่าสงสารมาก! ลูกสาววัย 18 ปีเคว้ง หลังพ่อแม่เสียชีวิตคาโรงเพาะเห็ดทั้งสองคน เหลือเพียงตัวเองกับปู่วัย 90 ปีเพียง 2 คน ทั้งหมดยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากและยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุผู้เสียชีวิต 3 รายภายในโรงเห็ดฟาง ข้างบ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 13 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน ประกอบด้วย นายบุญเหลือ จันทร์นอก อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี และนางสายพิณ อัคคีสำโรง อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา และ นายณัฐพล อัคคีสำโรง อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 139 หมู่ที่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี มีศักดิ์เป็นหลานชายของนางสาพิณ อัคคีจันทร์ โดยสองสามีภรรยาพยายามเข้าไปช่วยเหลือหลานชายที่สลบจากการเข้าไปเปิดโรงเห็ดที่อยู่ระหว่างการอบเชื้อ ทำให้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตเนื่องจากการขาดออกซิเจนและได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปเป็นจำนวนมากนั้น


ล่าสุดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 13 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของสองสามีภรรยาที่เสียชีวิต มีบรรดาญาติพี่น้องเดินทางมาสอบถามข้อมูลและให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งครอบครัวของนายบุญเหลือ จันทร์นอก และภรรยา อาศัยอยู่ด้วยกันรวม 4 คน คือ นายบุญเหลือ พร้อมภรรยาที่เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์นี้ เหลือเพียง นางสาวนิชา จันทร์นอก วัย 18 ปี ลูกสาวเพียงคนเดียว อาศัยอยู่กับนายพูน จันทร์นอก ผู้เป็นปู่ อายุมากกว่า 90 ปีแล้ว โดยหลังจากที่ครอบครัวนี้ต้องสูญเสียบุคคลที่เป็นเสาหลักไปพร้อมกันถึง 2 ราย ทั้งหมดยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก และยังไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตต่อไปเช่นไร

นางสาวนิชา จันทร์นอก หรือน้องแตงกวา บุตรสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ขณะนี้ศพของพ่อและแม่ยังอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อรอผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด และคาดว่าน่าจะไปรับศพกลับบ้านมาบำเพ็ญกุศลในช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนชีวิตตนหลังจากนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเดินต่อไปอย่างไร เบื้องต้นคงต้องไปอาศัยอยู่กับยายที่อยู่ต่างหมู่บ้านไปก่อน

ลูกสาววัย 18 ปีของสองสามีภรรยาที่เสียชีวิต
ทางด้าน นางส้มปิ่น เพียงกระโทก อายุ 54 ปี พี่สาวของนายบุญเหลือ พ่อของน้องแตงกวา กล่าวว่า ไม่คาดฝันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ห่วงแต่หลานสาวเพียงคนเดียวที่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร ทั้งนี้คงต้องอยู่ที่ความสมัครใจของหลานว่าจะอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อไปหรือไม่ หรือจะไปอยู่กับยายที่หมู่บ้านใกล้เคียง ส่วนปู่ซึ่งเป็นพ่อของตนและนายบุญเหลือ ผู้เสียชีวิต ตนจะอาสามาเป็นผู้ดูแลและอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อไป ส่วนอาชีพเพาะเห็ดขายของครอบครัวก็คงต้องหยุดลงเพียงเท่านี้เพราะไม่มีใครที่อยากมาดำเนินการต่อหลังจากที่ต้องเผชิญต่อความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้


ขณะที่ นายจิตติพงษ์ สีมีงาม อายุ 38 ปี หลานเขยของนายบุญเหลือ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนมีประสบการณ์เคยเข้าไปในโรงเห็ดในสถานการณ์คล้ายกัน คือจะมีการบ่มกากมันที่นำมาจากโรงแป้งในการอบเห็ดจนทำให้มีก๊าซบางอย่างออกมาในโรงเห็ด ทำให้ตนหายใจไม่ออก โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นตนได้เข้าไปในโรงเห็ดเพียง 5 วินาทีรู้สึกว่าเกือบจะตาย มีอาการแสบจมูก แสบตา ม่านตาจะปิดลง หน้ามืด ตนจึงกลั้นหายใจและรีบวิ่งออกมา หากตนสูดหายใจไปอีกคงต้องสลบและเสียชีวิตอย่างแน่นอน

“เหตุการณ์ที่ญาติพี่น้องทั้ง 3 รายได้เสียชีวิตน่าจะเป็นเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงที่บ้านอย่างเช่นไก่หากเดินผ่านโรงอบเห็ดและได้สูดดมกลิ่นก๊าซเหล่านี้ ไก่ตัวดังกล่าวก็จะมีอาการชัก แต่ไม่ถึงตายเนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใน จึงถือว่าก๊าซดังกล่าวมีอันตรายเป็นอย่างยิ่ง” นายจิตติพงษ์กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น