เชียงราย - ญาติพี่น้องยังสงสัย..ปม อสม.เชียงแสนฉีดวัคซีนโควิดได้ 2 วันแล้วเสียชีวิต ทั้งที่ปกติร่างกายแข็งแรง-ไม่มีโรคประจำตัว แถมเป็น ชรบ.ช่วยงานสังคมมาตลอด ระบุถ้าไม่ฉีดอาจไม่ตาย
วันนี้ (4 ก.ค. 64) ญาติมิตร เพื่อน อสม. ฯลฯ ต่างเดินทางไปเคารพศพนางธัญชนก แสนศักดิ์หาญ อายุ 49 ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่เสียชีวิตด้วยอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นบาง เมื่อวันที่ 2 ก.ค. หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวค ได้ 2 วัน ซึ่งญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ บ้านเลขที่ 44 หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล และมีกำหนดฌาปนกิจศพ ณ ฌาปนสถานของหมู่บ้านในวันที่ 8 ก.ค.นี้
นายเศกสันต์ กองศรี กำนัน ต.ศรีดอนมูล น้องเขยของนางธัญชนก อสม.ที่เสียชีวิต กล่าวว่า นางธัญชนกได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นก็มีอาการง่วงจึงได้พักผ่อน กระทั่งวันที่ 1 ก.ค.ก็เริ่มมีอาการปวดศีรษะแต่ก็ยังไปทำงานช่วยลูกชายขายอาหารตามสั่ง จนเช้าวันที่ 2 ก.ค.มีอาการปวดศีรษะมากขึ้นจึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงแสนและเสียชีวิตในที่สุด
“เหตุการณ์นี้ทำให้คนในครอบครัวมีข้อสงสัยมาก เพราะตามปกติพี่สะใภ้ของผมมีสุขภาพแข็งแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าหลังจากทราบผลชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ดังกล่าวแล้วจะมีการแจ้งสาเหตุว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไรในอีกประมาณ 1 เดือน โดยเฉพาะประเด็นว่ามีสาเหตุมาจากการได้รับวัคซีนหรือไม่อย่างไรด้วย
ด้านนางสุพรรณี กองศรี น้องสาวของนางธัญชนก กล่าวว่า จากผลชันสูตรพลิกศพดังกล่าวก็ทำให้พอยอมรับได้เพราะเป็นไปตามหลักทางการแพทย์ แต่ตนก็ยังติดใจและสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้มีอาการดังกล่าว เพราะตามปกติพี่สาวมีสุขภาพดีและไม่มีโรคประจำตัว แต่เมื่อเข้ารับวัคซีนกลับมีอาการดังกล่าวจึงสงสัยว่าหากไม่ไปฉีดวัคซีนในวันนั้นคงไม่เสียชีวิตหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน ได้เดินทางไปร่วมในพิธีศพและได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมานางธัญชนกถือเป็น อสม.ที่มีจิตใจดีและเสียสละเพื่อสังคม นอกจากจะเป็น อสม.แล้วยังเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ช่วยเหลืองานสังคมต่างๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นการสูญเสียบุคคลเช่นนี้จึงนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่ทุกคน ซึ่งทางอำเภอได้รายงานไปยัง จ.เชียงราย เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลืออีกทาง แต่ในเบื้องต้นทราบว่ามีกองทุน อสม.ช่วยเหลือไปก่อน ส่วนทางอำเภอจะประสานเร่งรัดความช่วยเหลืออื่นๆ ต่อไป