เชียงราย – เผยผลชันสูตรบ่งชี้ชัด..อสม.เชียงแสน เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนซิโนแวคได้ 2 วัน เกิดจากเลือดออกเยื่อหุ้มใต้สมองชั้นบาง “อนุทิน”ยืนยันพร้อมเยียวยาตาม ม.41-สิทธิ์ อสม.-เร่งชงคณะกรรมการ AEFI พิจารณาอีกทาง
วันนี้ (3 ก.ค.64) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 ใน จ.เชียงราย เพิ่มขึ้นอีก 20 ราย อยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย 7 ราย อ.แม่สาย 2 ราย อ.เทิง 1 ราย อ.พาน 1 อ.เวียงป่าเป้า 1 ราย อ.เชียงแสน 2 คน อ.แม่จัน 1 ราย และ อ.เวียงชัย 5 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา 1,024 ราย หายป่วยแล้ว 774 ราย เสียชีวิตสะสม 14 ราย รักษาอยู่ 236 ราย
นอกจากนี้ จ.เชียงราย ยังพบผู้เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนชิโนแวคเข็มแรกเป็นเวลา 2 วัน จำนวน 1 ราย คือ นางธัญชนก แสนศักดิ์หาญ อายุ 49 ปี อาชีพค้าขายและสถานะเป็นหม้าย ทั้งยังทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ซึ่งมีอาการปวดศีรษะและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเชียงแสนเมื่อวันที่ 2 ก.ค.
ซึ่งทางญาติติดใจสงสัยจึงส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ล่าสุดผลตรวจระบุว่าเสียชีวิตเพราะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นบาง และเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณี อย่างไรก็ตามญาติบางส่วนยังคงติดใจเนื่องจากนางธัญชนกเคยมีสุขภาพดี ขณะที่ทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน เตรียมเข้าไปเยี่ยมเยียนญาติเพื่อหาวิธีการช่วยเหลือต่อไป
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเดินทางไปดูสถานการณ์โควิด-19 ที่โรงพยาบาลเทิง อ.เทิง จ.เชียงราย กรณี อสม.ในพื้นที่ อ.เชียงแสน ที่เสียชีวิตดังกล่าว ว่าขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรจากโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ และจะนำผลการชันสูตรเสนอต่อคณะผู้เชี่ยวชาญ AEFI (Adverse Events Following Immunization หรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค) พิจารณา
แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหากเสียชีวิตจากการให้บริการของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเยียวยาตามมาตรา 41 ในส่วนสิทธิ์ของ อสม.จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์
อย่างไรก็ตามกรณีการเสียชีวิตภายหลังฉีดวัคซีนนั้นยังถือว่าพบน้อยมาก จึงขอให้ อสม. และประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเพราะวัคซีนไม่ทำอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ หากติดเชื้อวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิตได้.