จันทบุรี - นายกสมาคมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เผยพิษโควิด-19 ไม่กระทบยอดส่งออกสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตลาดชุมชนเงียบเหงาหนักจากมาตรการปิดด่าน วอนรัฐเร่งหนุนวัคซีนรักษาพื้นที่ ศก.ชายแดน
วันนี้ (16 ก.ค.) ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา เผยถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันว่า แม้จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าบริเวณแนวชายแดนที่อาจไม่คึกคักเหมือนในอดีตจากมาตรการปิดด่านการค้าเพื่อลดการกระจายเชื้อ
แต่จากการติดตามสถานการณ์การค้าในพื้นที่กลับพบว่า ได้รับผลกระทบไม่มากนักโดยสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยยังคงเป็นที่ต้องการของประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ตัวเลขการค้าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 มีอัตราเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมากถึง 10%
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดการส่งออกสินค้าจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้านจะไม่ลดลง แต่ผลกระทบมาตรการปิดด่านการค้าบริเวณแนวชายแดนได้ทำให้ตลาดการค้าในระดับชุมชนเงียบเหงาอย่างหนักจากการไม่สามารถเดินทางไปมาระหว่างกันของประชาชน 2 ประเทศ
วันนี้สมาคมฯ จึงต้องเร่งแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการชุมชนบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.จันทบุรี ด้วยการจัดทำโครงการพื้นที่ชายแดนสะอาด และจัดให้มีการฉีดยาฆ่าเชื้อภายในพื้นที่ค้าและตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีให้แก่ประชาชน
รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ยังเดินหน้าขอรับการสนับสนุนวัคซีนจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อฉีดให้ผู้ค้าและประชาชนบริเวณแนวชายแดนได้อย่างทั่วถึงเพื่อให้สามารถดำรงพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนไว้ได้
โดยจะเห็นได้จากในช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้เคยเสนอขอวัคซีน จำนวน 100,000 โดส จากนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อครั้งเดินทางลงพื้นที่ตลาดชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน
เพื่อตรวจสอบการฉีดวัคซีนให้คนไทยและแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ชายแดน อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว ตามนโยบายควบคุมการระบาดในพื้นที่ชายแดนตามโครงการพื้นที่เศรษฐกิจพิชิตโควิด
“วันนี้รัฐบาลจะต้องมองเห็นความสำคัญของพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนว่าสามารถสร้างรายได้สู่ประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งการสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบชายแดนสะอาด ถือเป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 เพื่อฉีดให้ผู้ค้าตามแนวชายแดนและชุมชนตามแนวชายได้แดนอย่างทั่วถึง”
เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการแนวชายแดนได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของรัฐอย่างเคร่งครัด และหากรัฐให้การสนับสนุนวัคซีนแก่ผู้ประกอบการอย่างทั่วถึงจะทำให้สามารถรักษาพื้นที่การค้าได้เป็นอย่างดี
นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเผยอีกว่า ขณะนี้สมาคมฯ ยังทำหน้าที่ประสานงานไปยังเจ้าของตลาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการด้วยปรับลดราคาค่าเช่า และได้ดำเนินการที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม มาแล้ว 2 ครั้ง