ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านประจวบฯ ผ่อนผันให้ ทม.ประจวบฯ ทิ้งขยะชั่วคราวได้ถึง 7 ส.ค.นี้ ส่วนนายกฯ เตรียมขอทิ้งนอกเขตเล็งชุมพร สมุทรสาคร และนครปฐม
กรณีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีปัญหาการนำขยะวันละ 45 ตัน จ้างบริษัทเอกชนเดือนละ 1.5 ล้านบาท ไปบำบัดที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต่อมา มีการร้องเรียนถึงสำนักงาน ป.ป.ช. ต่อมา เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้นำขยะไปกองทิ้งในป่าสงวนแห่งชาติคลองบางนางรม อ้างว่าขอเช่าที่ดินจากเอกชนรายหนึ่ง ห่างจากศาลากลางจังหวัด จวนผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานราชการต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมคลองบางนางรม แหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำของชาวบ้าน โดยเฉพาะหอยนางรม รวมทั้งอยู่ใกล้กับป่าชายเลนผืนใหญ่ และอ่าวประจวบคีรีขันธ์ เพียง 500-700 เมตรเท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งชาวบ้านในชุมชนให้รับทราบแต่อย่างใด จนกระทั่ง ชาวบ้านเริ่มเดินหน้ายื่นหนังสือคัดค้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ยกเลิกการใช้พื้นที่ดังกล่าวทิ้งขยะชั่วคราวนั้น
เมื่อเวลา 13.00.น.วันนี้ (14 ก.ค.) ที่จุดทิ้งทิ้งขยะชั่วคราวของเทศบาลเมืองประจวบฯ มีนายแดง แก้วชิงดวง ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านชุมชนคลองบางนางรม ผู้เลี้ยงหอยนางรม และผู้เลี้ยงกุ้ง ที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากการทิ้งขยะของเทศบาลเมืองประจวบฯ ในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.นั้น ได้พากันมาติดตามดูพื้นที่ ซึ่งล่าสุดได้มีการกั้นสแลนสีดำไว้ล้อมรอบ และมีการขุดหน้าดินลงไปและนำขยะลงไปใส่ไว้ พร้อมเอาผ้ายางสีดำปิดทั้บไว้ชั้นหนึ่งแล้ว และมีการโรยปูนขาว ราดน้ำยาอีเอ็มดับกลิ่น
นายกมล แก้วเทศ นายก ทม.เมืองประจวบฯ พร้อม ส.ท.รองปลัด และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน โดยมีตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มาติดตามสถานการณ์
นายก ทม.ประจวบฯ กล่าวยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ได้แจ้งชาวบ้านให้ทราบล่วงหน้า เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนหลังจากไปทิ้งที่บ่อขยะเดิม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ไม่ได้แล้ว ซึ่งยอมรับผิด และได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ทสจ.ประจวบฯ ในการดำเนินการเพื่อป้องกันกลิ่น น้ำเสียจากขยะ และการขึงสแลนล้อมรอบพื้นที่เอาไว้ และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบไปถึงคลองบางนางรม และสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใดเพราะเป็นการทิ้งกองชั่วคราว จนกว่าเทศบาลฯ จะหาที่ทิ้งใหม่ได้ ซึ่งจะขอใช้พื้นที่ดังกล่าวไปถึงวันที่ 7 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ นายแดง แก้วชิงดวง และชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนคลองบางนางรม ได้ปรึกษาร่วมกันและยอมให้มีการทิ้งขยะไปจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมตามที่ร้องขอ โดยหลังจากนั้นไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ทางเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์จะต้องขนขยะทั้งหมดออกไปยังสถานที่ใหม่ให้เสร็จ แต่หากวันที่ 7 ส.ค.ยังไม่ยุติการทิ้งขยะ ทางชาวบ้านจะมีมาตรการต่อไป
ด้านนางศิริพร นาเอก ชาวบ้านชุมชนคลองบางนางรม ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงหอยนางรม ในคลองมากว่า 30 ปี กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเลี้ยงหอยจำนวน 40 ครอบครัว เราหวั่นวิตกระยะยาว น้ำเสียจากบ่อขยะจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้หอยนางรมหยุดการเจริญเติบโต ซึ่งในระยะสั้นคงอาจไม่มีผลกระทบ แต่หากรับปากแล้วว่าจะหยุดทิ้งในเดือนหน้าเทศบาลฯ ต้องทำให้ได้
เบื้องต้น นายกมล แก้วเทศ นายก ทม.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวขอบคุณชาวบ้านที่เข้าใจ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมหาสถานที่เพื่อนำขยะไปทิ้งนอกเขตจังหวัด โดยเล็งไว้ 3 พื้นที่ได้แก่ ชุมพร สมุทรสาคร และที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในการนำขยะผ่านเส้นทางเพชรบุรี เพื่อไปยังสมุทรสาคร และนครปฐม เพื่อแก้ปัญหาไม่มีสถานที่ทิ้งขยะ
