บุรีรัมย์ - สองพ่อเฒ่าวัย 69 กับ 72 ปี เมียตายแย่งจีบหม้ายสาวคราวหลาน ถึงขั้นคว้าปืนลูกซองยาวลอบยิงอีกฝ่ายสาหัส แต่ปฏิเสธอ้างปืนลั่น ผู้บาดเจ็บปัดแค่ให้เงินใช้ตามประสาคนแก่เอ็นดูลูกหลาน ด้านพี่สาวฝ่ายหญิงยอมรับทั้ง 2 มาแอบชอบน้องสาวที่เพิ่งเลิกรากับสามี แต่น้องสาวไม่ได้คิดอะไรกับ 2 พ่อเฒ่า ด้านตำรวจตั้ง 3 ข้อหา
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. นายทองพูน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี ชาวบ้านตาลอง ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดียิงเพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บ ปมหึงหวงหญิงสาววัย 31 ปี ที่ต่างฝ่ายต่างแอบชอบ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สตึก หลังจากญาตินายสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ว่า นายสำราญถูกกระสุนปริศนายิงเข้าที่บริเวณต้นขาข้างซ้ายเป็นแผลเหวอะ ต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ ซึ่งจากการสอบปากคำนายทองพูน ผู้ถูกกล่าวว่า ยอมรับว่ามีปัญหาไม่เข้าใจกับนายสำราญ ผู้บาดเจ็บ จริง แต่ไม่บอกว่าปัญหาเรื่องอะไร ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ายิงนายสำราญก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงแค่ทำปืนลั่นใส่เท่านั้น
ขณะที่นายสำราญ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้าน เปิดให้ดูร่องรอยบาดแผลที่ถูกกระสุนเจาะเข้าบริเวณต้นขาข้างซ้ายเย็บกว่า 10 เข็ม บอกว่า ตนไม่ได้หึงหวง น.ส.น้ำฝน อายุ 31 ปี แต่ยอมรับว่า น.ส.น้ำฝน มาเล่นที่บ้านของตนหลายครั้ง ซึ่งตนเคยให้เงินใช้บ้างเป็นบางครั้งเพราะเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานไม่ได้คิดอะไร ส่วนนายทองพูน คู่กรณีจะแอบชอบหรือมีสัมพันธ์อะไรกับ น.ส.น้ำฝนหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดตามกฎหมายคนที่ก่อเหตุ
ขณะที่ น.ส.ปุ๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี พี่สาวของ น.ส.น้ำฝน บอกว่า น้องสาวเพิ่งจะเลิกรากับอดีตสามีได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ชอบแวะมาเล่นกับตนเองที่บ้านหลายครั้ง เวลาที่น้องสาวมา ทั้งตาสำราญ ผู้บาดเจ็บ และตาทองพูน ผู้ที่ถูกกล่าวหา จะชอบเข้ามาพูดคุยหยอกล้อกับน้องสาว ลักษณะต่างฝ่ายต่างแอบชอบน้องสาวตัวเอง พอเห็นน้องไปนั่งเล่นที่บ้านอีกคน อีกคนก็จะแสดงความไม่พอใจ แต่น้องสาวไม่ได้คิดอะไรเพราะน้องบอกว่ายังรักและคิดถึงอดีตสามีอยู่ แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากปมหึงหวงที่ต่างฝ่ายต่างแอบชอบน้องสาวแน่นอน
โดยคืนเกิดเหตุช่วงประมาณ 2 ทุ่มของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงปืนดังออกจากบ้านของ นายทองพูน 1 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าใครยิงใครเพราะไม่กล้าออกไปดู กระทั่งช่วงสายของวันที่ 11 ก.ค.ถึงทราบว่าตาสำราญถูกกระสุนปืนที่บริเวณขาและญาติได้นำตัวส่ง รพ. แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครยิงเพราะไม่เห็นตัวคนยิงได้ยินแต่เสียงปืน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านญาติของนายทองพูน พบปืนลูกซองยาวซุกอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งญาติยืนยันว่าเป็นปืนของนายทองพูน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไปตรวจสอบหาคราบเขม่าดินปืน ถึงแม้ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิเสธ แต่จะหาหลักฐานและเร่งสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อสรุปสำนวนให้ได้โดยเร็ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว” ส่วนข้อหาอื่นต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้ง