MGR Online - ดีเอสไอ รวบคนร้ายแอบอ้างสำนักงานสลากฯ มีเลขรางวัลงวดถัดไป ให้สมัครค่าสมาชิกเข้ากลุ่มไลน์ เหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก เสียหาย 40 ล้านบาท เร่งขยายผล
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.อ.บุญส่ง จันทร์ศรี ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมแถลงผลการจับกุม นายจาตุรงค์ งามเลิศศิริชัย หลังแอบอ้างชื่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกประชาชนให้หลงเชื่อว่า สำนักงานฯให้เลขรางวัล พร้อมของกลาง บ้านพร้อมที่ดิน, เงินสด 5.5 ล้านบาท, บัญชีธนาคาร 33 บัญชี, รถยนต์ BMW Z4 (บีเอ็มดับเบิลยู แซด 4), รถจักรยานยนต์ Honda Forza 350 (ฮอนด้า ฟอร์ซ่า 350), รถจักรยานยนต์ Vespa (เวสป้า), อาวุธปืน 9 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน พระเครื่อง นาฬิกา และเครื่องประดับมีค่าหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 57 ล้าน
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า สืบเนื่องกรณี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดีเอสไอ สอบสวนหาคนร้ายที่มีผู้แอบอ้างชื่อสำนักงานสลากฯ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่าสำนักงานสลากฯ ให้เลขรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม นายจาตุรงค์ ผู้ต้องหาคดีพิเศษที่ 3/2564 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 981/2564 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในพื้นที่พุทธมณฑลสาย 4 เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยพบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมาก เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและเตรียมขยายผลถึงเครือข่ายรายอื่นๆ ต่อไป
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า จากพฤติการณ์พบว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานสลากฯ และชื่อผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ในการกระทำความผิด หลอกลวงประชาชน โดยใช้บัญชีโซเชียลมีเดียหลายบัญชี โฆษณาข้อความอันเป็นเท็จว่า สามารถให้เลขรางวัลล่วงหน้าในงวดถัดไปได้ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อมีผู้สนใจจะชักชวนเข้าลิงก์กลุ่มไลน์วีไอพี ต้องโอนค่าสมัครสมาชิกผ่านบัญชีธนาคาร จำนวน 800-1,000 บาท แต่ถ้าต้องการเลขเด็ดต้องจ่ายเพิ่มอีกตามที่ตกลง ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และประชาชนได้รับความเสียหาย
“ทั้งนี้ พบบัญชีธนาคารที่ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย จำนวน 9 บัญชี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 37 ล้านบาท โดยแต่ละงวดมีผู้เสียหายไม่น้อยกว่าหลักพันราย และผู้ต้องหาได้รับเงินต่องวด 500,000-1,000,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและนำพยานหลักฐานเพื่อแก้ข้อกล่าวหา และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนที่จะสรุปสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นทางคดี ส่งพนักงานอัยการต่อไป”
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง เผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการสร้างความเสียหายให้กับกองสลากฯ เป็นอย่างมาก ทั้งชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือ จึงต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหน่วยงาน การหลอกลวงในลักษณะนี้ เหยื่อจะถูกหลอกเอาเงินในจำนวนไม่มาก ทำให้เหยื่อบางรายไม่อยากเอาเรื่อง แต่อย่าลืมว่า การหลอกหลวงผ่านทางโซเชียล สามารถชักจูงเหยื่อได้ทั่วประเทศ ทำให้จำนวนเหยื่อที่หลงเชื่อมีมาก ดังนั้น เม็ดเงินที่ผู้ต้องหาจะได้ก็มากตามไปด้วย ทำให้ผู้ต้องหาได้ใจ และก่อเหตุซ้ำๆ ทั้งนี้ เชื่อว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมานานมากแล้ว ถ้าดูจากทรัพย์สินที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดได้ จึงอยากฝากเตือนอย่าหลงเชื่อ เพราะทางกองสลากฯ ไม่ได้มีการล็อกเลข หรือมีการให้เลขตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด