นครปฐม - เด็กชายวัย 8 ขวบที่ปรากฏในคลิปถูกทำร้าย ถูกส่งตัวไปอยู่กับยายในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะคนทำร้ายเด็กชายคือย่าแท้ๆ ขณะที่แม่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี เห็นคลิปถึงเขาปล่อยโฮ สงสารลูก ส่วนพ่ออยู่ในเรือนจำ ส่วนน้องสาวคนก่อเหตุ เผยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมายเต็มที่
จากกรณีเมื่อที่ 11 ก.ค. ได้มีผู้แชร์คลิปสาวใหญ่ซึ่งตอนแรกถูกระบุว่าเป็นแม่ของน้องกล้า (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนที่ได้เห็นภาพดังกล่าวเกิดความสะเทือนใจและได้มีการเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามช่วยเหลือเด็กชายคนดังกล่าว และให้จับกุมสาวใหญ่ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ไวที่สุด
จากนั้นนช่วงคืนวันเดียวกัน พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่บริเวณ ม.4 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม กระทั่งสามารถช่วยเหลือเด็กชายคนดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดภัยและติดตามจับกุม นางอัมพร ห้วยหงษ์ทอง หรือพร ซึ่งที่แท้เป็นย่าของน้องกล้า หลังหลบหนีไปบริเวณตำบลทุ่งรี อำเภอเมืองนครปฐม ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ห้วยหงส์ทอง อายุ 48 ปี น้องสาวของนางอัมพร ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ และลูกสาวเป็นคนถ่ายคลิป เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์พาน้องเค้ก ลูกสาวและน้องกล้า หลานชายไปส่งที่บ้าน จากนั้นได้ น้องกล้า ไปขออนุญาตกับนางอัมพร ซึ่งเป็นย่า เพื่อจะไปเล่นสเกตบอร์ด แต่ยังไม่ทันได้ออกไปไหน นางอัมพร ได้เกิดโมโห และได้ลงมือทำร้ายหลานแท้ๆ ของตัวเองอย่างหนัก และได้ทำร้ายตนเองดังที่ปรากฏในคลิป ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่า นางอัมพร ทำไปเพราะอะไร ซึ่งตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงจนรับไม่ได้ และมีผู้ใหญ่บ้านได้พาตนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครปฐม กระทั่งมีการช่วยน้องกล้า มาได้และจับกุมพี่สาวของตนเองในคืนเดียวกัน
น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังจากตำรวจสอบปากคำและไปตรวจเช็กร่างกายเสร็จแล้ว ได้ให้น้องกล้า ไปอยู่ที่บ้านยาย ซึ่งน้องกล้า ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อนั้นติดคุก ส่วนแม่เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี จึงให้นางอัมพร เป็นผู้เลี้ยงดูที่บ้านหลังเกิดเหตุ
ก่อนหน้านี้ ยายของน้องกล้า ได้เคยขอรับไปเลี้ยง แต่นางอัมพร ไม่ยอมและได้เสนอขอให้ทางยายจ่ายเงินให้สัปดาห์ละ 1 พันบาท และจะให้อยู่บ้านยาย 5 วัน และมาอยู่กับนางอัมพร 2 วันต่อสัปดาห์ จึงตกลงกันไม่ได้ และมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้แม่น้องกล้า รู้เรื่องและเสียใจร้องไห้อย่างหนักกับคลิปที่ได้เห็น ส่วนตัวเองที่ถูกทำร้ายนั้นก็ได้แจ้งความไปแล้วแต่ไม่ได้ประสงค์เอาความผิดกับกับพี่สาว แต่เรื่องของหลานให้เป็นไปตามกระบวนการต่อไป
“ปกติตนก็ไม่ได้คุยกับพี่สาวเพราะไม่ชอบนิสัยเขาซึ่งเขาดื่มเหล้าหนัก ยิ่งมาเห็นเมื่อวานว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้รับไม่ได้ เพราะหลานชายไม่ใช่เด็กดื้อ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าพี่สาวทำเกินกว่าเหตุ” น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน วันนี้พนักงานสอบสวนได้มาที่เกิดเหตุเพื่อทำบันทึกและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อรวบรวมไว้ประกอบสำนวนในการดำเนินคดี โดยพบว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท คือ ประมวลกฎหมายอาญา ม.295 และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26(1) โดยจะมีการดูแลเด็กในเรื่องบาดแผลก่อน และจะดูสภาพจิตใจว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการให้ดำเนินการสอบสวน ซึ่งต้องมีการดำเนินการจากสหวิชาชีพ ทั้งตำรวจ แพทย์ นักจิตวิทยา อัยการ เพื่อรวมรวบหลักฐานในการดำเนินคดีต่อ นางอัมพร อีกครั้ง และมีหลายหน่วยงานกำลังเร่งติดตามการดูแลเด็กในระยะยาวซึ่งตอนนี้อยู่กับยายในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
