จับได้แล้วคนร้ายหลอกซื้อรถจักรยานยนต์ พบประวัติโชกโชน

ชัยนาท - ตำรวจชัยนาทจับคนร้ายหลอกซื้อรถจักรยานยนต์หนุ่มเมืองกรุงได้แล้ว พบประวัติโชกโชน เคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์มาแล้วหลายคดี และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกลางนครปฐม ในคดีลักทรัพย์

จากเหตุที่คนร้ายได้ติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาวส้ม ทะเบียน 5 กม 6689 กรุงเทพมหานคร ของ นายธรรมชาติ มณีเนตร อายุ 23 ปี ที่ได้ลงประกาศขายไว้ในเฟซบุ๊ก ราคา 40,000 บาท โดยคนร้ายได้หลอกให้นายธรรมชาติ นำรถจักรยานยนต์จากกรุงเทพมหานคร มาให้ดูเพื่อตกลงซื้อขายกันบริเวณริมถนนปากทางเข้าวัดธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท แต่ยังไม่ทันได้ตกลงซื้อขายกัน คนร้ายก็ออกอุบายทำทีว่าเป็นคนในพื้นที่ เป็นเจ้าของบ้านและเป็นลูกร้านขายข้าวแกงที่อยู่บริเวณนัดหมาย ก่อนจะขอทดสอบขี่รถ แล้วซิ่งรถหนีหายไป ทิ้งรถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่คนร้ายขับมาไว้ให้ผู้เสียหายดูต่างหน้า โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุเพียงชั่วข้ามคืน ล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท สามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้แล้ว โดย พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยนาท และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายนรินทร์ หรืออั้น บุญยะ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี คนร้ายที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์

โดยหลังจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท ได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายนรินทร์ มีบ้านพักอาศัยอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี จึงไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ระหว่างที่ตำรวจกำลังจะเข้าไปในบ้าน คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันที่ขโมยมา หลบหนีออกไป มุ่งหน้าไปทางจังหวัดกำแพงเพชร ตำรวจจึงติดตามไป จนกระทั่งตามไปจับกุมคนร้ายที่ได้รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ จึงนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่ได้ขโมยรถจักรยานยนต์ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนรถจักรยานยนต์กัน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีประวัติโชกโชน เคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์มาแล้วหลายคดี และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกลางนครปฐม ในคดีลักทรัพย์ มาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ที่ผ่านมา

ด้าน นายธรรมชาติ มณีเนตร ผู้เสียหายได้เดินทางมาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย และได้มอบกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบอกว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้รถจักรยานยนต์กลับคืนมา ไม่คิดว่าจะได้รถคืนเร็วเช่นนี้ ยังกลัวว่าจะไม่ได้คืน กลัวคนร้ายนำไปขายต่อ หรือนำไปแปลงสภาพ แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาว่าจับคนร้ายได้แล้วดีใจมาก ยอมรับว่าตอนเกิดเหตุรู้สึกตกใจและกลัวมาก เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ตนเพิ่งจะเรียนจบ คิดจะทำอาชีพซื้อขายรถมือสองนี้เลี้ยงตัว ไม่คิดว่าจะเจอคนร้ายเช่นนี้ จากนี้ไปจะระมัดระวังในการนัดซื้อขายรถให้มากขึ้น จะเปลี่ยนจากนัดพบกันริมถนน เป็นสถานีตำรวจ หรือสถานที่อื่นที่มีความปลอดภัยกว่านี้ ส่วนที่คนร้ายอ้างว่าเป็นการแลกเปลี่ยนรถกัน นายธรรมชาติ บอกว่า ยังไม่ทันได้ตกลงกันเรื่องนี้ แต่คนร้ายกลับขี่รถ จยย.ของตนหนีไปก่อน

พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ฝากเตือนประชาชนที่จะทำการซื้อขายกันในลักษณะนี้ โดยเฉพาะเป็นการซื้อขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต ขอให้ระมัดระวังมากขึ้น เพราะช่วงนี้มักจะมีเหตุหลอกลวงกันให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งให้ระมัดระวังข้อความทางเว็บไซต์ และข้อความทางมือถือที่มักจะมีข้อความส่งมาหลอกลวงให้หลงเชื่อ เช่น การถูกรางวัล หรือการมีเงินโอนเข้าบัญชี ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนจะเชื่อ

ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่คนร้ายขี่มาจอดทิ้งไว้ก่อนจะเชิดรถของผู้เสียหายหนีไป ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อผู้ครอบครองรถไม่ใช่นายนรินทร์ แต่เป็นของบุคคลคนหนึ่งที่อยู่กรุงเทพมหานคร และกรรมสิทธิ์ยังเป็นของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ตำรวจจึงได้ยึดรถคันดังกล่าวไว้ ส่วนรถจักรยานยนต์ PCX คันที่ถูกขโมยได้ส่งมอบคืนให้ผู้เสียหายนำกลับไป