พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจอยุธยาจับคนร้ายเพิ่งพ้นคุก รวมหัวกับเพื่อนที่รู้จักในเรือนจำ อ้างตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบขอตรวจค้นตัวเหยื่อแล้วฉวยโอกาสชิงทรัพย์ นำไปขาย-แลกยาเสพติดไว้เสพ อ้างไม่มีทางเลือก เพราะเป็นโรคเกาต์ หางานทำไม่ได้
จากกรณีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายณรงค์ คนสว่าง ชาวอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รูปร่างท้วมทั้งคู่ อายุประมาณ 35-40 ปี ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ ใส่หมวกนิรภัยครึ่งใบ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาจอดใกล้ๆ พร้อมอ้างว่าเป็นตำรวจขอตรวจค้น จากนั้นชิงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก 125 สีดำ ของผู้เสียหายหลบหนีไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.อ.ธนกฤต กนิษฐกุล ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษแย้ม รอง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สามารถตามจับ นายชัยชนะ สื่อสาร อายุ 46 ปี ที่บ้านเลขที่ 170/8 หมู่ 8 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ได้ตามหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางเสื้อผ้า กระเป๋า และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 3 ขจ 5398 กรุงเทพ ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนอีก 1 รายร่วมก่อเหตุทราบชื่อคือ นายเอ๋ อยู่ระหว่างการหลบหนี
ด้านนายชนะชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายเอ๋ ผู้ต้องหาอีกราย โดยรู้จักกันในเรือนจำ เมื่อพ้นคุกออกมาจึงได้ชักชวนกันมาทำทีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยเลือกเหยื่อที่มีท่าทางพฤติกรรมแปลกๆ จะเข้าประกบทำการอ้างเป็นตำรวจและขอตรวจค้นก่อนจะฉวยโอกาสชิงทรัพย์ผู้เสียหาย ก่อเหตุมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง โดยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.วังน้อย 4 ครั้ง และก่อเหตุในท้องที่ สภ.พระอินทร์ราชา 2 ครั้ง ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ จำนวน 4 เครื่อง เงินจำนวนหนึ่ง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ส่วนโทรศัพท์ที่ได้ไปจะนำไปแลกเป็นยาไอซ์นำกลับมาไว้เสพ สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ขโมยของ นายณรงค์ คนสว่าง นำไปขายต่อในราคา 2,000 บาท
นายชนะชัย ผู้ต้องหายังให้การอ้างว่า ตนเองเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 มีโรคประจำตัวเป็นโรคเกาต์ และความดัน ไม่รู้จะไปทำงานอะไร ตกงานไม่มีทางเลือก จึงได้กลับมาก่อเหตุในลักษณะแบบนี้อีก
ด้าน พ.ต.อ.ธนกฤต กนิษฐกุล ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเคยติดคุกมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง ในลักษณะการก่อเหตุเดียวกันคือ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและชิงทรัพย์ผู้เสียหาย เมื่อพ้นคุกออกมาแต่ไม่เลิกพฤติกรรมเดิมกลับมาก่อเหตุในลักษณะแบบเดิม จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวได้
ส่วนนายเอ๋ ผู้ต้องหาอีกรายอยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับต่อไป จากนั้นได้นำตัวนายชนะชัย สื่อสาร ผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อทำการสอบสวนและขยายผล และประสานให้ผู้เสียหายในท้องที่ สภ.พระอินทร์ราชา เข้ามาทำการชี้ตัวผู้ต้องหาทำการอายัดตัว เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน นายรัฐภูมิ โกมล อายุ 21 ปี ผู้เสียหายอีก 1 ราย เข้ามาทำการชี้ตัวผู้ก่อเหตุ หลังถูกนายชนะชัย พร้อมพวกเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอค้นตัว เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ช่วงเวลา 16.00 น. หน้าวัดสุคันธาราม ตำบลบ่อตาโล่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วชิงโทรศัพท์มือถือ ไอโฟนไปได้ 1 เครื่อง จากนั้นพยามจะชิงรถจักรยานยนต์ แต่โชคดีมีรถชาวบ้านขับรถผ่านมา ผู้ก่อเหตุจึงพากันหลบหนี
