xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ โคราชแจงยิบ 10 กฎเหล็กคุมเข้มโควิด ฝ่าฝืนเจอคุกสูง 2 ปี ยันเปิดรับผู้ป่วยนอกพื้นที่เฉพาะชาวโคราช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชแจงยิบงัด 10 กฎเหล็กคุมโควิด-19 ระบาดครั้งใหญ่ ลั่นฝ่าฝืนโทษคุกสูงสุด 2 ปี ปรับ 1 แสน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้พบอีก 22 ราย ป่วยสะสม 1,271 ราย ยันเปิดรับผู้ป่วยนอกพื้นที่เข้ารักษา รพ.โคราชเฉพาะผู้มีภูมิลำเนาจ.นครราชสีมาและยังไม่มี รพ.รักษาเท่านั้น ป้องกันการทะลักเข้าพื้นที่

วันนี้ (1 ก.ค.) นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ล่าสุดวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 22 ราย พบในพื้นที่อำเภอขามทะเลสอ 1 ราย อ.ครบุรี 1 ราย อ.ชุมพวง 1 ราย อ.ด่านขุนทด 3 ราย อ.โนนสูง 2 ราย อ.ปากช่อง 1 ราย อ.เมือง 12 ราย และ อ.หนองบุญมาก 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,271 ราย รักษาหาย 971 ราย ยังรักษาอยู่ 283 ราย เสียชีวิต 17 ราย สรุปความเสี่ยง/ประวัติสัมผัส เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) 8 ราย, เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) 1 ราย, เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรสาคร) 1 ราย, สัมผัสผู้ป่วย COVID-19 10 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวน 2 ราย

นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสีมาจึงได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด 10 มาตรการ ได้แก่ 1. สั่งปิดสถาบันการศึกษาทุกประเภทแบบ On Site ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน-13 กรกฎาคม 2564 2. ออกคำสั่งให้ทุกอำเภอจัดหาสถานที่กักตัวรองรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องกักตัว ตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกับให้ตั้งด่านที่อำเภอปากช่อง และอำเภอสีคิ้ว คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 15 จังหวัดเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา

3. ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เปิดตามกำหนด ลดจำนวนที่นั่งครึ่งหนึ่ง ไม่แออัด งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ส่วนการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม จัดได้ไม่เกิน 100 คน และต้องขออนุญาตศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ในพื้นที่รับผิดชอบ และต้องมีมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่จำเป็นต้องจัดเกิน 100 คน ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ก่อน


4. หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทุกมาตรการ มีโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2528 มาตรา 51 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท, มาตรา 52 จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 18 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท

5. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีมาพักอาศัยระยะยาว เกิน 14 วัน ต้องรายงานตัวภายใน 12 ชั่วโมงต่อ อสม. ผู้นำชุมชน หรือ จนท.สาธารณสุขในพื้นที่ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี พร้อมกับต้องกักตัว 14 วัน ป้องกันการระบาด


6. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีมาพักอาศัยแบบค้างคืนในที่พักภายในจังหวัดนครราชสีมา ให้รายงานตัวต่อสถานที่ที่ไปพัก และรับการคัดกรองทุกวัน บันทึกประวัติการเดินทางส่งสาธารณสุขอำเภอ และจัดห้องพัก ที่รับประทานอาหารแยกกับผู้พักคนอื่น พร้อมกับห้ามไปในพื้นที่ชุมชน พื้นที่แออัด ห้างร้าน สวนสาธารณะ เป็นต้น ยกเว้นรับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ RT-PCR ผลตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมง

7. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีไป-กลับ ติดต่อราชการหรือปฏิบัติภารกิจอื่นใด ต้องเข้ารับการคัดกรองก่อน และเมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จให้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยเร็ว ซึ่งหากพบอาการผิดปกติ สงสัยติดเชื้อให้รีบส่ง รพ.ทันที


8. แนวทางปฏิบัติผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 53 จังหวัด ต้องรายงานตัวภายใน 12 ชั่วโมงต่อ อสม. ผู้นำชุมชน หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ก่อนเข้ารับการประเมินความเสี่ยงจากเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ

9. ปิดสถานที่บริหารหรือสถานที่เสี่ยง และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100% เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และ 10. สถานที่อื่นที่ไม่ได้ประกาศให้ปิด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด


นายกอบชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีการประกาศปิด 9 สถานที่บริการที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ประกอบด้วย 1. สถานบริการ 2. สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ 3. อาบ อบ นวด 4. กิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร 5. สนามไก่ชน กัดปลา สถานที่แข่งสัตว์ 6. โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด 7. โบว์ลิ่ง ตู้เกม 8. ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต และ 9. สนามม้า

สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าสามารถควบคุมได้ เนื่องจากมีปัจจัยการระบาดจากภายนอกเข้ามาด้วย ทั้งการเดินทางเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมาของประชาชนทั่วไปและแรงงานที่เดินทางออกจาก กทม. โดยเฉลี่ยมีแรงงานเดินทางเข้ามาในพื้นที่ต่ำกว่า 100 คนต่อวัน ซึ่งได้กำชับให้ทุกพื้นที่ดำเนินการตรวจหาเชื้อทุกราย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา อ.โนนสูง อ.สีคิ้ว และ อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นอำเภอใหญ่ มักเป็นเป้าหมายของแรงงานที่ต้องการจะเดินทางเข้ามาหางาน จึงต้องเน้นย้ำไปยังนายอำเภอทุกอำเภอ รวมทั้งผู้ประกอบการให้ตรวจสอบและปฏิบัติตามมาตรการที่ทางจังหวัดกำหนดอย่างเข้มงวด


ส่วนกรณีที่มีประกาศให้ชาวโคราชที่อยู่พื้นที่นอกจังหวัดและประสงค์จะเข้ามารับการรักษาที่บ้านเกิดใน จ.นครราชสีมาได้นั้น เรื่องนี้ต้องมองอย่างเป็นธรรม มองถึงความเป็นชาวโคราชด้วยกัน ถ้าพบเห็นคนโคราชเดือดร้อนก็จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือ แต่การเปิดรับครั้งนี้ไม่ได้เปิดกว้างทุกคนให้เฉพาะผู้ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ติดโควิด-19 และยังไม่มีโรงพยาบาลรักษาเท่านั้น หากรายใดมีโรงพยาบาลรักษาแล้วก็ให้รักษาในพื้นที่ในจังหวัดนั้นๆ ต่อไป เพราะแม้ว่าเราจะมีโรงพยาบาลสนาม พร้อมที่จะเปิดใช้งานในกรณีฉุกเฉินก็ตาม แต่ต้องป้องกันการทะลักเข้ามารักษาที่จังหวัดนครราชสีมาจนมากเกินไป

“สำหรับประสิทธิภาพการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด ขณะนี้มีผู้รับการรักษาจากโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลจำนวน 220 เตียง และยังมีเตียงว่างอีกกว่า 700 เตียง แต่จะต้องสำรองเตียงไว้สำหรับชาวโคราชที่อาจจะมีการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย” นายกอบชัยกล่าวในตอนท้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น