xs
xsm
sm
md
lg

“เชียงราย” ยันสกัดโควิด-19 ทั้ง 3 คลัสเตอร์ล่าสุดอยู่หมัด ทั้งตับเต่า-รพ.-แขวงทางหลวง ชี้ชัดวัคซีนช่วยได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงราย นำคณะแถลงการันตีสกัดโควิด-19 ทั้ง 3 คลัสเตอร์ล่าสุดอยู่หมัด ทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ตับเต่า-รพ.-แขวงทางหลวง ยันฉีดวัคซีนส่งผลดี ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ 50% ไม่มีอาการ 18 ราย มีอาการเล็กน้อย อีก 5 รายมีอาการทางปอดแต่ไม่ถึงขั้นพึ่งออกซิเจน

วันนี้ (25 มิ.ย.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 จ.เชียงราย นายแพทย์ภุชงค์ ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมคณะทำงาน แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

โดยระบุว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชียงรายพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง จังหวัดจึงได้ปฏิบัติการเชิงรุกใช้ทุกวิธีการเพื่อสกัดยับยั้งให้ได้จนเหลือคลัสเตอร์หลักๆ คือ ต.ตับเต่า อ.เทิง และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยคลัสเตอร์แรกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวิถีชีวิตอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่จึงติดต่อได้ง่าย ส่วนคลัสเตอร์โรงพยาบาลถือเป็นด่านหน้าของการต่อสู้กับโควิด-19 ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่โรงพยาบาลใน จ.เชียงราย มีบุคลากรรวมกันประมาณ 3,000 คน พบผู้ติดเชื้อและเกี่ยวข้องประมาณ 100 คน จึงถือว่าน้อยและสามารถขับเคลื่อนทางการแพทย์ได้และปัจจุบันสามารถควบคุมการระบาดได้แล้วทั้ง 2 คลัสเตอร์

นายวรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับคลัสเตอร์ ต.ตับเต่า ที่เป็นห่วงกันนั้นมีการระบาดเฉพาะใน 2 หมู่บ้านคือ หมู่ 12 และหมู่ 15 ต.ตับเต่า ประชากรรวมประมาณ 30,000 คน มีผู้ติดเชื้อรวม 114 ราย มีกลุ่มเสี่ยงประมาณ 400 คน ซึ่งได้มีการจัดสถานที่กักกันสำหรับกลุ่มเสี่ยง 9 แห่ง เป็นโรงเรียน 8 แห่ง และวัด 1 แห่ง ปัจจุบันมีการกักตัว 107 คน ส่วนกลุ่มผู้มีความเสี่ยงต่ำหรือมีญาติที่ติดเชื้อให้อยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์เป็อย่างดี

ด้านนายแพทย์ไชยเวช กล่าวว่า กรณีคลัสเตอร์โรงพยาบาลนั้นเริ่มพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.เป็นพยาบาล 1 คน เมื่อสอบสวนโรคตามไปตรวจเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้อง 28 ราย ก่อนรุกตรวจอีก 141 ราย และ 575 รายตามลำดับ พบผู้ป่วยรวม 44 ราย

แต่ 3 วันหลังสุดนี้พบผู้ป่วยลดลง คือ วันอังคารที่ 22 มิ.ย.ตรวจบุคลากร 266 คน พบติดเชื้อ 2 คน วันพุธที่ 23 มิ.ย.พบติดเชื้อ 1 ราย วันพฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย.พบติดเชื้อ 2 ราย ล่าสุดในวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.นี้ไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว และเชื่อว่าจะใช้เวลาอีก 10 วัน จะจัดการคลัสเตอร์นี้ได้

สำหรับผู้ป่วยซึ่งเป็นแพทย์ 3 ราย พยาบาล 20 ราย โภชนาการ 2 ราย ที่เหลือเป็นบุคลากรฝ่ายต่างๆ พบว่าทั้งหมดกว่า 50% ไม่มีอาการ ที่เหลือมีอาการเล็กน้อย 18 ราย และมีอาการทางปอด 5 ราย แต่ไม่ถึงกับต้องให้ออกซิเจน จึงยืนยันว่าได้ว่าการฉีดวัคซีนเป็นผลดี โดยพบว่าบุคลากรที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 50% ฉีดเข็มเดียวป้องกันได้ 30% และผู้ที่เลือกจะไม่ฉีดเลยมีอัตราติดเชื้อ 100% ที่สำคัญผู้ได้รับวัคซีนแทบไม่มีอาการหรือมีน้อย ดังนั้นทางการแพทย์จึงบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนมีผลต่อกรณีไวรัสโควิด-19

"ส่วนผู้เสียชีวิตในวันนี้เป็นเยาวชนชาย อายุ 15 ปี ชาว อ.แม่สาย ป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูกระยะสุดท้าย และลามสู่ปอด ต่อมาเมื่อติดไวรัสโควิด-19 จึงเสียชีวิตในที่สุด ขณะที่คนในครอบครัวยังติดเชื้ออีกหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าไปดูแลแล้ว"

นายแพทย์ภุชงค์ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 ราย และการปฏิบัติการตลอดระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว และคงตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 896 ราย รักษาตัวอยู่ 242 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนในภาพรวมตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา พบว่า เชียงรายมีคลัสเตอร์เกิดขึ้น 33 คลัสเตอร์ และสามารถจัดการได้แล้ว คงเหลือที่ ต.ตับเต่า โรงพยาบาลเชียงรายฯ และบางส่วนของคลัสเตอร์แขวงทางหลวง


กำลังโหลดความคิดเห็น