ราชบุรี - หัวอกแม่ใจจะขาด ลูกสาวหาย ชาวเน็ตช่วยแชร์ถล่มหวังช่วยสาวตามหาลูก 2 คน หลังพี่สะใภ้อุ้มลูกหายนาน 6 วัน อย่างไร้วี่แวว วอนติดต่อกลับอยากได้ลูกคืน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Pranom Khemngen" ได้โพสต์ภาพและข้อความประกาศตามหาลูกสาววัย 4 ขวบ และ 2 ขวบ โดยถูกพี่สะใภ้ที่จ้างเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก อุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์หายไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้นานรวม 6 วัน หลังโลกโซเชียลที่ทราบข่าวต่างได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแชร์ภาพ และข้อความประกาศตามหาเด็กทั้ง 2 คนอย่างถล่มทลาย เนื่องจากสงสารหัวอกของคนเป็นพ่อและแม่
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อพบ นางสุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี และนายอำพล ลืมบางใหญ่ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแม่และพ่อของเด็ก โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนั้นทั้งคู่ได้เดินทางไปที่วัดสมถะ หมู่ 4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม เพื่อติดใบปลิวและแจกใบปลิวประกาศตามหาลูกทั้ง 2 คน ให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยตามหา
โดยนางสุรินทร์ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวอย่างกังวลใจว่า ตนกับสามีต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงมีความจำเป็นต้องนำลูกสาวคนโต ซึ่งตอนนี้อายุ 4 ขวบ และลูกสาวคนเล็ก อายุ 2 ขวบ มาจ้าง นางรุ้งลวัลย์ พุ่มบัว ซึ่งเป็นพี่สะใภ้เลี้ยงดูแทน ตั้งแต่ลูกสาวคนโตตัวเล็กๆ จนตอนนี้อายุ 4 ขวบแล้ว ส่วนลูกสาวคนเล็กอายุ 2 ขวบ แต่ตนกับสามีจะค่อยโทร.หาเช้าเย็นไม่เคยขาด ซึ่งพี่สะใภ้ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันกับตน และตนกับพี่สะใภ้ก็ไม่เคยมีปัญหากัน
จนช่วงเช้าวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้คุยกับลูกสาวและพี่สะใภ้เป็นครั้งสุดท้าย และช่วงเย็นลูกชายของพี่สะใภ้ได้โทร.มาถามตนว่า ติดต่อแม่ได้ไหม เพราะที่บ้านติดต่อไม่ได้ไปดูที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่น้องๆ ก็หายไปด้วย ตนจึงพยายามโทร.ติดต่อ แต่ก็ติดต่อได้เหมือนปิดเครื่องตลอด จนเข้าวันที่ 16 มิ.ย.ตนก็ติดต่อพี่สะใภ้ไม่ได้ ทำให้ตนต้องหาพี่ชาย ซึ่งเป็นสามีของพี่สะใภ้ และญาติของพี่สะใภ้ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่รู้ไปไหน รู้แต่ว่าพี่สะใภ้เอาลูกสาวของเขา อายุ 12 ขวบ และลูกสาวของตนทั้ง 2 คนไปด้วย จนวันที่ 17 มิ.ย.ตนก็ยังติดต่อพี่สะใภ้ไม่ได้อีก ทำให้ตนกังวลใจมากและเดินทางกลับบ้านที่ อ.โพธาราม ทันที เพื่อมาตามหาลูกสาวทั้ง 2 คน
นางสุรินทร์ กล่าวต่อว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านตนพยายามตามหาพี่สะใภ้ จนทราบว่าวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 1 ทุ่ม พี่สะใภ้ได้โทร.ไปหาคนที่ชื่อ พี่ตี๋ และบอกว่า ได้ทำลูกสาวคนเล็กของตนจมน้ำจนสลบ ตอนนี้กำลังปั๊มหัวใจอยู่ที่ รพ.โพธาราม ซึ่งพี่ตี๋ได้ถามกลับไปว่า ได้โทร.ไปบอกแม่เด็กให้รู้ไหม แต่ทางพี่สะใภ้กลับตอบมาว่า ไม่กล้าบอก จนวันที่ 16 มิ.ย.ตอนเช้า พี่ตี๋ได้โทร.ไปถามอาการของเด็ก ซึ่งพี่สะใภ้ได้ตอบว่า เด็กฟื้นแล้ว แต่พอวันที่ 17 มิ.ย. พี่ตี๋โทร.ไปหาพี่สะใภ้อีกครั้ง กลับพบว่าปิดเครื่องและติดต่อไม่ได้อีกเลย
นางสุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนั้นตนกังวลใจมาก และห่วงลูกสาวมาก แต่ทำอะไรไม่ถูกจนสามีของตนปรึกษาตนให้ไปแจ้งความที่ สภ.โพธาราม และสอบถามไปที่ รพ.โพธาราม จนทราบว่า ไม่มีชื่อลูกสาวของตนมารักษาตามที่พี่สะใภ้โทร.บอกพี่ตี๋ ตนจึงประกาศตามหาลูกสาวผ่านทางเฟซบุ๊กจนมีคนมาช่วยแชร์และนำไปโพสต์ต่อเพื่อช่วยตนตามหาลูกสาว
จนวันที่ 19 มิ.ย.เวลาประมาณ 2 ทุ่ม มีผู้ชายใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "เจษฏา นิ่มสนิท" ได้ทักข้อความมาบอกว่า "ขอเงิน 5 พันบาท" เพื่อแลกกับให้ตนได้เจอลูกสาวทั้ง 2 คน แต่ตนไม่ยอมให้ เขาจึงส่งข้อความมาว่า "ไอซ์ มึงเลือกเองนะ ยื่นไปแล้ว มึงไม่รับเอง ถ้ายังอยากจะเจอลูกมึง ก่อนที่กูจะเอาลูกมึงไปขายใช้แรงงาน" ตนจึงตอบกลับไปว่า "แล้วมึงต้องการอะไรบอกมา" แต่เขาก็เงียบไป
ซึ่งตอนนี้ตนไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตนจะเป็นอย่างไร ถ้าพี่สะใภ้ทำลูกตนจมน้ำจริง ในเมื่อเด็กปลอดภัยแล้วทำไมไม่นำเด็กกลับมา ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้แล้ว โดยทางตำรวจกำลังสืบให้อยู่
"อยากฝากถึงพี่สะใภ้ให้นำลูกของตนทั้ง 2 กลับมาคืน ตนไม่เอาเรื่อง ขอแค่เอาลูกตนกลับมาคืนก็พอ" นางสุรินทร์ ผู้เป็นแม่กล่าว