เชียงราย - เผยคลัสเตอร์โควิดตับเต่า ยังลามหนัก พบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน ล่าสุดมีเด็กอนุบาล 2 ด้วย ระบุส่วนใหญ่แพร่ระบาดจากร่วมสังสรรค์ดื่มเหล้าแก้วเดียวเวียนรอบวง
วันนี้ (18 มิ.ย.) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเชียงรายเพิ่มขึ้นอีก 10 ราย อยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 694 ราย รักษาหายแล้ว 637 ราย เสียชีวิตสะสม 9 ราย ยังรักษาอยู่ 48 ราย
โดยผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในเขต อ.เมืองเชียงราย นอกจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน อบจ.เชียงราย จำนวน 1 รายแล้ว ยังมีเด็กชาย 1 คน และเด็กหญิงอีก 1 คน เรียนอยู่ระดับชั้นอนุบาล 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และสาธารณสุขได้นำรถพยาบาลไปรับตัวเด็กๆ ที่บ้าน พร้อมร่วมกับผู้ปกครองปลอบประโลมและให้กำลังใจเด็กๆ ด้วยท่าทางต่างๆ เช่น ท่ามือมินิฮาร์ต ฯลฯ ก่อนพาไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เบื้องต้นพบว่าทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี
ขณะที่พื้นที่ที่เกิดกลุ่มหรือคลัสเตอร์ใหญ่ คือ ต.ตับเต่า อ.เทิง พบผู้ป่วยรวมแล้ว 29 ราย หลังจากพบผู้ป่วยรายแรกที่มาจาก จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. จำนวน 3 ราย ต่อมาในวันที่ 16 มิ.ย.พบอีก 2 ราย และวันที่ 17 มิ.ย.พบเพิ่ม 18 ราย กระทั่งวันนี้ (18 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6 รายดังกล่าว ซึ่งคลัสเตอร์นี้ยังลามไปติดผู้ป่วยรายใหม่ที่ อ.พญาเม็งรายอีก 1 ราย
ด้านนายแพทย์ วัชรพงศ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้ให้โรงพยาบาลเทิงเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยพื้นที่ ต.ตับเต่า และเร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในเขตหมู่ 12 และหมู่ 15 ต.ตับเต่า รวมทั้งคัดกรองผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดจำนวนประมาณ 80 รายแล้ว ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์กันเป็นรายวัน
สำหรับสาเหตุที่เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ในพื้นที่ ต.ตับเต่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการดื่มกินสุราโดยใช้แก้วใบเดียวดื่มเวียนกัน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดในหลายพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นที่ อ.แม่สาย และล่าสุดที่ ต.ตับเต่า
รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ที่พบผู้ป่วยเชื่อมโยงคลัสเตอร์โควิดตับเต่าจำนวน 20 ราย และมีกลุ่มความเสี่ยงสูงจำนวน 69 คน ล่าสุดทางอำเภอได้มีประกาศขอให้งดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน ตลาดนัด ถนนคนเดิน ตลาดนัดคลองถม ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 18-30 มิ.ย.นี้ ส่วน อ.ภูซาง จ.พะเยา ที่พบผู้ป่วยเชื่อมโยงคลัสเตอร์เดียวกัน 2 คน ยังคงมีการตั้งจุดตรวจบนเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยัง ต.ตับเต่า อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
