xs
xsm
sm
md
lg

“นกน้อย อุไรพร” ประกาศวางมือวงหมอลำชื่อดัง “เสียงอิสาน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - “นกน้อย อุไรพร” ประกาศวางมือวงหมอลำเสียงอิสาน ส่งไม้ต่อทายาทคนรุ่นใหม่ “น้องแป้ง” พร้อมทีมคนรุ่นใหม่สืบสานตำนานหมอลำวงเสียงอิสาน เผยวางมือแล้วไม่ได้ไปไหนยังร่วมแสดงและให้คำปรึกษาลูกหลานบริหารวงให้เดินหน้าอยู่รอดต่อไปให้ได้


วันนี้ (15 มิ.ย. 64) ณ บ้านเลขที่ 555 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นางอุไรพร หรืออุไร ฉิมหลวง เจ้าของวงดนตรีลูกทุ่งหมอรำชื่อดัง “เสียงอิสาน” ได้ทำการไลฟ์สดแถลงข่าว “สิไปต่อ หรือพอส่ำนี้” กับสถานการณ์โควิด-19 พร้อมภาระหนี้สินวงเสียงอิสาน โดยมีศราวุธ พลอยประดับ ดำเนินรายการ

แม่นกน้อย อุไรพร กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันรู้กันว่าโรคระบาดโควิด-19 ทั้ง 3 รอบ ทำให้วงเสียงอิสานไม่มีงานแสดงต้องแบกภาระหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ ที่นำมาต่อลมหายใจให้วงเสียงอิสาน อีกทั้งยังค้างค่าตัวลูกวงอีกด้วย อีกทั้งแม่นกน้อยไม่มีความเคลื่อนไหวในเพจเฟซบุ๊กเสียงอิสานมาประมาณ 1 เดือน ลูกวงที่แยกย้ายกันไปทำมาหากิน ไปทำอาชีพอื่น ได้ส่งสัญญาณถามว่าจะไปต่อ หรือพอแค่นี้ จึงได้ปรึกษานายมัยกิจ สรุปว่าจะไปต่อ

แต่จะส่งมอบให้คนรุ่นใหม่ น้องแป้ง หรือ น.ส.ณัฐธิดาพร ขันคำ อายุ 27 ปี หลานสาว พระเอกบุญหลง มงคลพร และดีเจเอ็ม เป็นผู้รับไม้ต่อเป็นผู้สืบทอดสร้างตำนานวงเสียงอิสาน และขอผ่อนชำระใช้หนี้ลูกวงเหมือนเดิม จากนี้เสียงอิสานแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ทีมทายาทมี น้องแป้ง พระเอกบุญหลง และดีเจเอ็ม เป็นตัวแสดง


ส่วนทีมบริหาร ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท Voice studio เข้ามาบริหารแบบมืออาชีพ มีคุณหน่อย นายสุชาติ อินทร์พรหม เข้ามาร่วมบริหารจัดการบุคลากรทุกภาคส่วน พัฒนาด้านการแสดงงานโชว์ของวงให้ดีขึ้นในรูปแบบคนรุ่นใหม่ และคุณเจมส์ นายวิทยา อรุณรุ่งโรจน์ เข้ามาบริหารระบบการเงิน ทั้งเรื่องเงินเดือน การเบิกจ่ายต้องเป็นระบบชัดเจน และคุณโบ้ นายจตุภูมิ โอภาสสดใส ดูแลเรื่องสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม

ส่วนดูแลเรื่องชุดการแสดง และหางเครื่องมี “ครูเทียม” ชุติเดช ทองอยู่ และทีมงาน เป็นผู้ดูแล เพื่อตอบโจทย์แฟนหมอลำคนรุ่นใหม่

หลังแถลงข่าว แม่นกน้อย ได้เปิดเผยว่า หลังจากส่งไม้ต่อแล้วตนไม่ได้ทิ้งการแสดงไปไหน แต่ยังร่วมแสดง ให้คำปรึกษา ที่สำคัญจากนี้จะดูแลสามี ด้านนายมัยกิจ ฉิมหลวง หรือพ่อหลอด สามีแม่นกน้อย บอกว่า ตนได้ปรึกษากับแม่นกเป็นอย่างดีแล้วว่าเราคิดอย่างไรในเหตุการณ์อย่างนี้ ร่วมถ่ายเลือด ให้เลือดใหม่ของเราส่งต่อ ต่อยอดไปให้ถึงจุดสูงสุด แต่ DNA เรายังเป็นเจ้าของเสียงอิสานอยู่เหมือนเดิม วัยรุ่นแต่ละกลุ่ม แต่ละแขนง มั่นใจ เชื่อใจ กลุ่มซัปพอร์ต คิดว่าชัดเจน จึงตกลงกับแม่นก แม่ก็ไม่ทิ้ง พ่อก็ไม่ทิ้ง เราขออยู่เบื้องหลัง และจะตามไปด้วยกันตลอดทุกงาน 


น.ส.ณัฐธิดาพร ขันคำ ทายาทผู้รับไม้ต่อ เปิดเผยว่า ตนอยู่กับแม่นกน้อยมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ได้เรียนรู้ฝึกประสบการณ์ทั้งหน้าเวที การบริหารจัดการของส่วนต่างๆ ได้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างมา 17 ปี ตนจะเป็นตัวแทนของแม่นกน้อยในการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ กลายเป็นความผูกพัน ความรัก การร้องเพลง ศิลปวัฒนธรรมหมอลำ เป็นทายาทรุ่นสืบสานตำนานนก มาต่อยอดและสืบสานวัฒนธรรมต่อไป

รู้สึกดีใจมากที่แม่ใหญ่เดินหน้าต่อ สู้ต่อ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์โควิด เราได้รวมพลังคนรุ่นใหม่ที่เป็นสายเลือดนิวเจเนอเรชันเสียงอีสานมาสานต่อไม่ใช่มีเฉพาะตนคนเดียว แป้งคนเดียวไม่สามารถเดินต่อไปได้ ก็จะมีทีมบริหารมาซัปพอร์ต ดีใจและภูมิใจที่แม่ใหญ่ไว้วางใจให้แป้งได้บริหาร และจะทำให้ดีที่สุด และยิ่งๆ ขึ้นไป


กำลังโหลดความคิดเห็น