xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแล้ว “ตลาดประมงอ่างศิลา” หลังองค์การสะพานปลาใช้เวลาหลายปีปรับโฉมสะพานปลาสู่ตลาดสินค้าสัตว์น้ำมาตรฐานสากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดแล้วตลาดประมงอ่างศิลา “Fish Marketing Organization” หลังองค์การสะพานปลาใช้เวลาเกือบ 5 ปี ปรับโฉมพื้นที่สะพานปลาริมทะเลอ่างศิลา สู่ตลาดสินค้าสัตว์น้ำมาตรฐานสากลมั่นใจไร้โควิด-19

วันนี้ (1 มิ.ย.) นายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลาด้านสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมง รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เผยว่า ขณะนี้ อสป.ได้เปิดให้บริการตลาดประมงอ่างศิลา จ.ชลบุรี อย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยมุ่งหวังให้เป็นตลาดปลากลางทะเล หรือ Fish Marketing Organization แห่งแรกในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ริมทะเลใน ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี 

โดยตลาดแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมสินค้าสัตว์น้ำขนาดใหญ่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แกะกุ้ง กินปู ดูปลา อ่างศิลา ชลบุรี” ที่รวบรวมร้านค้าต่างๆ มากกว่า 318 ร้าน

และในอนาคตยังเตรียมที่จะเปิดพื้นที่ให้ชาวประมงพื้นบ้านได้นำเรือมาจอดเทียบท่าเพื่อขายอาหารทะเลและสินค้าสัตว์น้ำนานาชนิด ตอกย้ำความเป็น Fish Marketing Organization สนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวใน จ.ชลบุรี ที่ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าอาหารทะเลที่ซื้อที่ตลาดประมงอ่างศิลา สด สะอาด ปลอดภัยและราคาเป็นธรรม

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ อสป. มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ทั้งการตั้งจุดตรวจคัดกรองก่อนเข้าตลาด การเว้นระยะห่าง มีจุดตั้งเจลแอลกอฮอล์ทั่วบริเวณ รวมทั้งกำหนดให้ผู้ใช้บริการรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา


นายอมรศักดิ์ ยังเผยอีกว่า อสป. ถือเป็นนโยบายหลักในการกำกับดูแลตลาดทุกแห่งของสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงที่มีอยู่ 18 แห่งทั่วประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้าสัตว์น้ำและอาหารทะเลในพื้นที่

ขณะที่การปรับโฉมท่าเทียบเรือและตลาดประมงอ่างศิลาในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การพัฒนาและยกระดับให้เป็นตลาดสินค้าสัตว์น้ำที่มีมาตรฐานสากล ถูกสุขลักษณะเทียบชั้นตลาดปลาหรือตลาดสัตว์น้ำในต่างประเทศได้

และองค์การสะพานปลายังมีเป้าหมายผลักดันให้สถานที่ดังกล่าวเป็น destination จุดหมายปลายทางของการชอปปิ้งอาหารทะเล สินค้าสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือจุดเช็กอินแห่งใหม่ใน จ.ชลบุรี อีกด้วย


อนึ่ง ในปี 2569-2561 องค์การสะพานปลา ได้เริ่มเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับกลุ่มผู้ค้าในตลาดปลาอ่างศิลาเดิมที่มีมากเกือบ 300 ราย ให้ยอมย้ายพื้นที่ขายจากบริเวณสะพานปลาเก่าอ่างศิลา ไปยังแผงขายในพื้นที่แห่งใหม่ที่มีความสะอาดได้มาตรฐาน ถูกหลักอนามัยเพื่อยกระดับตลาดจำหน่ายสินค้าประมงให้เทียบเท่าตลาดปลาและตลาดสินค้าประมงในต่างประเทศ

โดยที่ผ่านมา องค์การสะพานปลาได้ทุ่มงบประมาณ จำนวน 186 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างตลาดแห่งใหม่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีอยู่เดิมจำนวน 283 ราย หรือประมาณกว่า 500 คน ได้ใช้เป็นแหล่งขายอาหารและสินค้าของฝากท่ามกลางการต่อต้านอย่างหนักของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเพราะหวั่นว่าอาจจำหน่ายสินค้าไม่ได้มากเท่าเดิม และนักท่องเที่ยวอาจไม่ยอมรับกับรูปแบบการซื้ออาหารทะเลจากเดิมที่เคยได้เลือกซื้อจากสะพานปลาแต่สุดท้ายกลับต้องย้ายไปอยู่ในพื้นร่มที่อยู่ห่างไกลจากจุดเดิม

กระทั่งองค์การสะพานปลา ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่าผู้ค้าเดิมจะได้สิทธิในการจำหน่ายสินค้าในอัตราค่าเช่าตารางเมตรละ 1,500 บาท แม้อาจจะมากกว่าเดิมที่เคยจ่ายค่าเช่าเพียง 300 บาทต่อเดือน แต่เพื่อแลกกับการได้สิทธิขายสินค้าต่อไปและจะต้องปฏิบัติตามกฎเหล็ก 4 ข้อคือ 1.ห้ามนำรถยนต์เข้าไปในสะพานปลาเพื่อขนสินค้า 2.สินค้าที่นำมาขายที่ตลาดแห่งใหม่ต้องสะอาด ไม่ใช้สารเคมีในสัตว์ทะเลที่ขายจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เช่น ห้ามใส่สารฟอร์มาลินในปลาหมึก ไม่ให้นำสัตว์ทะเลที่เน่าเสียมาหลอกขายประชาชน

3.แผงขายต้องถูกสุขอนามัยและไม่มีการนำน้ำทะเลมาใช้ล้างอาหาร และภาชนะ และ 4.ผู้ขายทุกรายต้องช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมตามนโยบายขององค์การสะพานปลา คือ บริการซื่อตรง ประมงถูกกฎหมาย แพปลาถูกสุขอนามัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม


ขณะที่รายรับที่ได้จากผู้ค้าเป็นค่าแผงนั้น องค์การสะพานปลาได้นำไปใช้ในการจัดหาคนมาทำความสะอาดตลาดเพื่อให้ถูกสุขอนามัย และนำเข้ากองทุนในการก่อสร้างซ่อมแซมปรับปรุงสะพานปลาอ่างศิลาเดิมให้มีความแข็งแรงและสะอาดหลังผ่านการใช้งานมานาน

กระทั่งในวันนี้การค้าขายบริเวณตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา ที่ย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้ามสะพานปลาอ่างศิลาได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และในวันนี้เมื่อ อสป.ได้เปิดตลาดปลาอ่างศิลาที่ได้รับมีการปรับปรุงสะพานปลาเพื่อให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อให้เปิดขายสัตว์น้ำที่นำขึ้นจากทะเลทุกวัน เชื่อว่าจะสามารถสร้างจุดขายทางการท่องเที่ยวร่วมกันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  








กำลังโหลดความคิดเห็น