กาญจนบุรี - รอง ผบช.ภาค 7 นำทีมตะลุยป่าตรวจสันแดนหุบจินดา ช่องทางทะลักของแรงงานชาวพม่า พร้อมมอบนโยบายเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วยงาน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคง มณฑลทหารบกที่ 17 (มทบ.17) หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) เป็นประธานปล่อยแถวระดมกำลังลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติของแรงงานผิดกฎหมายชาวพม่าในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล บริเวณช่องทางสันแดนหุบจินดา หมู่ 12 ต.บ้านเก่า ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยมี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฝ่ายความมั่นคง พ.ต.อ.ภาคิน แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เสนีย์ เวชพัฒ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.กก.ตชด.13 ร.อ.สุระชัย ทองเหลือง ผบ.ร้อยทหารพราน 1115 กรมทหารพรานที่ 11 กองทัพภาคที่ 1 นายนพพล สุกิจปาณีนิจ ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายอภิรัฐ สงบจิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านเก่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ อส.อ.เมืองกาญจนบุรี กว่า 70 นาย ร่วมเดินทาง
สำหรับเส้นทางการเดินทางนั้นค่อนข้างลำบากเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างคับแคบที่ต้องขึ้นลงภูเขา สลับกับมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มพื้นที่ ซึ่งคณะของ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ใช้เวลาตรวจเส้นทางประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับเนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยภายหลังว่า ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนเข้มงวดกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการกระทำผิดอย่างเด็ดขาดทุกราย และให้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการป้องกัน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งอาจจะติดมากับกลุ่มแรงงานดังกล่าว
ในส่วนพื้นที่ชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี เรามีกองกำลังที่คอยดูแลตามแนวชายแดนคือ กองกำลังสุรสีห์ และกองกับกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า สำรวจหุบจินดาในวันนี้ มีกองร้อยทหารพราน 1115 กรมทหารพรานที่ 11 และหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลอยู่ ซึ่งหุบเขาจินดามีการสำรวจเส้นทางการเดินทางข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานชาวพม่า บริเวณนี้ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านเก่า รวมทั้งปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี เผยว่าเป็นจุดหนึ่งที่แรงงานชาวพม่าสามารถเดินเท้าผ่านเข้ามาตามช่องทางนี้ได้ การเดินทางมาในวันนี้ต้องการดูจุดช่องทางเข้าออกของแรงงาน รวมทั้งต้องการมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกสังกัด
และที่ผ่านมา ในส่วนของ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ และร้อยทหารพรานที่ 1115 รวมทั้งร่วมมือร่วมใจปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชนโดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรีทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน
ทำให้ที่ผ่านมา สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้สามารถติดตามจับกุมเครือข่ายกลุ่มผู้ลักลอบนำพาแรงงานชาวพม่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้จำนวนหลายคน ซึ่งหน่วยงานทุกหน่วยงานของจังหวัดกาญจนบุรี มีการประสานงานกันมาโดยตลอดทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการบริหารสั่งการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ทุกครั้งได้มีการประชุมหารือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติของแต่ละฝ่ายนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จุดสำคัญที่สุดคือ การป้องกันตามแนวชายแดนเพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาค้าแรงงานในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาในภายหลัง
ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาความร่วมมือในด้านการข่าว ซึ่งในวันนี้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านเก่า ได้มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ที่ผ่านมา สามารถป้องกันแรงงานชาวพม่าลักลอบเข้ามาได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเล็ดลอดเข้ามาก็สามารถจับกุมได้ทุกราย
สำหรับพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านระยะทาง 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติมากถึง 43 ช่องทาง ดังนั้นรัฐบาลจึงเน้นนโยบายให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วยงาน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล