เชียงใหม่ - สองหนุ่มหน้ามืดฉกสร้อยพลาสติกชุบสีทองอร่ามคล้องคอแมว ในโครงการพลาซ่าหรูย่านท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่ แอบย่องเอามาวางคืนแล้ว หลังถูก “ทาสแมว” ถล่มยับในโซเชียลมีเดีย พร้อมเขียนจดหมายขอโทษและสำนึกผิด อ้างเมาหนักทำขาดสติ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กิ่ง ท่าแพ” โพสต์ภาพพร้อมบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 19 พ.ค. 64 ภายในบริเวณโครงการแอท ราชดำเนิน ย่านประตูท่าแพ ซึ่งมีชายหนุ่มจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดเข้าห้องน้ำในโครงการ จากนั้นก่อเหตุหยิบเงินในตะกร้าและขวดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่วางอยู่บนโต๊ะภายในโครงการ พร้อมทั้งยังนำสร้อยพลาสติกชุบสีทองที่วางอยู่และปลดสร้อยเส้นที่คล้องคอแมวชื่อ “เสี่ยเก๋า” ไปด้วย เนื่องอาจจะเข้าใจว่าเป็นทองคำแท้ ซึ่งปรากฏว่า โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และการแชร์ต่อเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่รักแมว กระทั่งต่อมาวานนี้ (20 พ.ค. 64) ผู้โพสต์ได้แจ้งความคืบหน้าว่า มีผู้นำเงิน และขวดเจล พร้อมสร้อยคอแมวมาวางคืนให้แล้ว รวมทั้งเขียนจดหมายขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น อ้างว่า เมาสุราจึงก่อเหตุด้วยความขาดสติ
โดยวันนี้ (21 พ.ค. 64) จากการสอบถาม นางสาวกิ่งกาญจน์ ไชยวรรณ์ ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก “กิ่ง ท่าแพ” และผู้จัดการทั่วไปโครงการแอท ราชดำเนิน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่ชายหนุ่มสองคนหยิบเงิน และขวดเจล พร้อมสร้อยพลาสติกชุบสีทองของแมวไปด้วยนั้น เกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 19 พ.ค. 64 ซึ่งทั้งสองคนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแล้วเข้าห้องน้ำในโครงการ เมื่อออกมาได้หยิบเอาสิ่งของดังกล่าวไป โดยสร้อยคอที่เอาไปด้วยนั้น เป็นพลาสติกชุบสีทองที่ตัวเองสั่งซื้อทางออนไลน์ในราคา 59 บาท มาคล้องให้กับแมวชื่อ “เสี่ยเก๋า” ที่เลี้ยงไว้บริเวณโครงการได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งคนที่เอาไปก็น่าจะรู้ว่าเป็นพลาสติกและไม่ได้มีราคา ทั้งนี้ รู้สึกแปลกใจพอสมควรที่ทั้งสองคนก่อเหตุดังกล่าว เพราะโดยรอบโครงการก็มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้โดยรอบ เพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย จึงนำเรื่องราวโพสต์บอกเล่าในเฟซบุ๊ก
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว ปรากฏว่า ต่อมาช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ค. 64 เวลาประมาณ 18.48 น. ได้มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายมิดชิดปกปิดหน้าตาเข้าที่โครงการบริเวณจุดเดียวกับที่ก่อเหตุแล้วนำถุงใบหนึ่งมาวางไว้ เมื่อเปิดออกพบว่าข้างในมีเงินสด 60 บาท, เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 2 ขวด ซึ่งเป็นคนละขวดกับที่ถูกหยิบไป และสร้อยคอพลาสติกชุบทองของแมว ที่เหลือเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น พร้อมกับมีจดหมายเขียนข้อความระบุว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นผมขอโทษครับที่หยิบเจลแอลกอฮอล์และสร้อยคอ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นของแมว เพราะผมเห็นมันตกและขาดตามสภาพนี้อยู่แล้ว ที่ผมทำไปเพราะผมอยู่ในอาการเมาและขาดสติ พอมาเห็นข่าวตัวเองรู้สึกตกใจและเสียใจกับการกระทำของผม ผมไม่ได้ตั้งใจจะขโมยของแมว ผมขอโทษกับการกระทำของผมด้วยนะครับ” โดยแม้ได้ของคืนแล้ว แต่กำลังจะต้องปรึกษากับทางเจ้าของโครงการอีกครั้งว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปหรือไม่อย่างไร