บุรีรัมย์ - “ช้างพังเชอรี่” ที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิตขณะให้อาหารริมถนนหน้ารีสอร์ตชื่อดังเขาใหญ่ โคราช มีอาการเหงาซึม และขาดแคลนอาหาร หลังถูกเลิกจ้างควาญต้องพากลับบ้านไร้งานไร้เงิน มีเพียงชาวบ้านสงสารนำกล้วยอ้อยมาให้กิน ผญบ.วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือช้าง แต่ห้ามเข้าใกล้หวั่นเหตุซ้ำรอย
วันนี้ (21 พ.ค.) จากกรณีที่ช้างเพศเมีย อายุ 28 ปี ชื่อ “พังเชอรี่” ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่รีสอร์ตชื่อดังที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิตขณะแวะนำอาหารลงมาให้ บริเวณริมถนนหน้ารีสอร์ตดังกล่าวช่วงที่ควาญช้างไม่อยู่ เหตุเกิดเมื่อกลางเดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดหลังเกิดเหตุ นายเพ็ง ยิ้มรัมย์ อายุ 51 ปี ควาญช้างต้องนำพังเชอรี่กลับภูมิลำเนาที่ ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากถูกทางโรงแรมเลิกจ้างเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก โดยล่าสุดควาญได้นำช้างพังเชอรี่ไปล่ามโซ่ไว้ภายในบริเวณวัดป่าบ้านคอกหมู-บ้านไผ่ ต.สตึก อ.สตึก เนื่องจากมีต้นไม้ที่ร่มรื่นและบริเวณใกล้เคียงยังพอมีหญ้าสดให้ช้างกินได้ ซึ่งควาญบอกว่าหลังจากนำพังเชอรี่กลับมาบ้านก็มีอาการเหงาซึมไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน อาจเพราะไม่มีเพื่อนช้างด้วยกันเหมือนตอนอยู่ที่เขาใหญ่ และถึงแม้จะไม่แสดงอาการหงุดหงิดแต่ก็ได้ติดป้ายห้ามเข้าใกล้เพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขาดแคลนอาหารช้างเพราะหลังจากถูกเลิกจ้างก็ไม่มีรายได้ที่จะซื้ออาหารให้ช้างกินได้ โดยแต่ละวันช้างก็จะกินประมาณ 100 กิโลกรัม หากซื้อจะเป็นเงิน 400-500 บาทต่อวัน แต่ไม่มีกำลังที่จะซื้อได้เพราะไม่มีงานไม่มีรายได้ จากเมื่อก่อนไปให้บริการนักท่องเที่ยวจะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 10,000-20,000 บาท จะอยู่ได้ทั้งคนทั้งช้าง ตอนนี้อาศัยนำช้างไปกินหญ้าสดตามป่าที่พอจะมีหญ้าเหลือ และมีชาวบ้านที่สงสารเอากล้วย อ้อยมาให้บ้าง แม้ไม่เพียงพอแต่ก็พอประทังได้บ้าง และมีนักท่องเที่ยวบางคนที่ทราบข่าวก็โอนเงินค่าซื้ออาหารช้างมาให้บ้าง แต่หากเป็นไปได้เมื่อสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงก็อยากจะนำช้างไปหารายได้เองเพราะหากอยู่แบบนี้ก็เดือดร้อนทั้งคนทั้งช้าง
จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นอยากฝากเตือนประชาชน หรือนักท่องเที่ยว หากช้างเชือกไหนที่ควาญไม่ได้อยู่ด้วยห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด เพราะบางทีช้างเขาไม่เคยชินหรืออาจมีอารมณ์หงุดหงิด อาจจะทำร้ายบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิตได้
ด้าน น.ส.อรทิพย์ ชื่นรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านสระกอไทร ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้านหรือผู้ที่จะนำอาหารมาให้ ไม่ควรเข้าใกล้ช้างเด็ดขาดเพราะอาจเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือพังเชอรี่ด้วยเพราะหลังจากเจ้าของถูกเลิกจ้างก็ไม่มีรายได้ที่จะไปซื้ออาหารให้ช้าง ทำให้เดือดร้อนทั้งคนทั้งช้าง ซึ่งหากใครอยากจะช่วยเหลือเรื่องอาหารช้างสามารถติดต่อควาญ หรือผู้ใหญ่บ้านได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจนกว่าจะสามารถนำช้างไปหารายได้ด้วยตัวเอง