ศูนย์ข่าวศรีราชา - รอง ผบ.ตร.นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบคฤหาสน์หรูหนุ่มจีนก่อเหตุยิงตำรวจอีกครั้ง ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงยัน ปปง.เข้าหาหลักฐานสอบสวนหาที่มาของทรัพย์สิน ก่อนเร่งหาตัวเจ้าของอาวุธปืนชาวไทยที่ถูกระบุเป็นผู้ขายปืนให้ ตั้งข้อสงสัยทำธุรกิจอะไรมีทรัพย์สินมากมาย
จากเหตุการณ์ นายจาง หยาง หรือ “ลีโอ” หนุ่มจีนวัย 35 ปีได้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก ยิงใส่ ร.ต.อ.พันธ์เทพ ศรีบุญนาค รอง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนำหมายศาลพัทยาเกี่ยวกับการกระทำความผิด พ.ร.บ.หรืออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เข้าตรวจค้นคฤหาสน์หรูเลขที่ 113 /76 ม.9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟฟินิกซ์
ส่วน ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ผบ.หมู่ สส.สภ.เมืองพัทยา ถูกยิงที่ฝ่าเท้าจำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และหลังเกิดเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมโดยรอบบ้านก่อนส่งเจ้าหน้าที่หน่วยสวาทเข้ากระชับพื้นที่ภายในบ้าน
ก่อนควบคุมตัวชาวจีน และผู้อาศัยทั้งหมดไปทำการสอบสวนและตั้ง 3 ข้อหาหนักทั้ง พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากพบว่ามีความผิดอื่นๆ อีกก็จะดำเนินการตามกฎกหมายในทันที
และเมื่อวานนี้ นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความส่วนตัวของ นายจาง หยาง หรือลีโอ อ้างว่า แรงจูงใจของการก่อเหตุมาจากการที่ผู้ก่อเหตุหวาดกลัวหลังเคยมีชาวต่างชาติถูกปล้นโดยชาวต่างชาติด้วยกัน ซ้ำไม่รู้ว่าคนเข้าบ้านเป็นใครเนื่องจากตำรวจเข้ามาในลักษณะนอกเครื่องแบบ และยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จนทำให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ต้องแถลงออกมาแถลงยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตนอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มเข้าบ้าน และมีการดำเนินการตามขั้นตอนแสดงหมายค้น ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ที่ปิดล้อมตัวบ้านได้แสดงตัวตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน แต่คนร้ายกลับหนีขึ้นไปบนห้องนอน และยิงสวนออกมาจนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและยังพบปลอกลูกปืนทั้งในห้องและในตัวบ้านประมาณ 60-70 ปลอกนั้น
ล่าสุด วันนี้ (21 พ.ค.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 และตำรวจภูธร.จ.ชลบุรี สภ.ห้วยใหญ่ กองพิสูจน์หลักฐานภาค 2 และเจ้าหน้าที่จาก ปปง. ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ้านหรูหลังเกิดเหตุอีกครั้งโดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าภายในบ้าน
ใช้เวลาตรวจสอบนานหลายชั่วโมงก่อนจะออกมาแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าเป็นเพียงการเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานและทรัพย์สินภายในบ้านเท่านั้น
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงแจ้งว่า การเข้าตรวจสอบบ้านเกิดเหตุในวันนี้ได้มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมให้เจ้าหน้าที่ ปปง.เร่งตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินว่าผู้ต้องหาได้มาอย่างไร ซึ่งในเบื้องต้น ทราบแต่เพียงว่าบ้านหลังนี้มีผู้พักอาศัยร่วมกันจำนวน 7 คน
ประกอบด้วย นายจาง หยาง หรือลีโอ ภรรยาชาวจีน ลูกบุญธรรมชาวไทย และคนงานอีก 3 คน เป็นคนไทย 1 คน และพม่า 2 คน
นอกจากนั้น ยังจะเร่งตรวจสอบหาที่มาของอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกที่ถูกพบภายในบ้านซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ซื้อมาจากคนไทย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามหาตัวคนไทยรายดังกล่าวอยู่
“ในส่วนของธุรกิจที่ทนายความผู้ต้องอ้างว่าทำอยู่ในเมืองพัทยา มานาน 2-3 ปีนั้นอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ปปง. เนื่องจากพบว่า บ้านพักมีลักษณะเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ มีทรัพย์สินภายในและรถยนต์หรูถึง 6 คัน โดยเจ้าหน้าที่จะเน้นไปที่เรื่องคดีเกี่ยวกับการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และการพยายามฆ่า รวมทั้งมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินเป็นหลัก”
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อออนไลน์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาเคยถูกคนมีสีบุกมารีดเงินจำนวน 18 ล้านบาทถึงบ้าน จนต้องประกาศว่าถ้าใครเข้ามาที่บ้านอีกจะใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเป็นที่มาของเหตุการณ์นั้น
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เพิ่งจะทราบข้อมูลจากสื่อเช่นกันและจะได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อผู้บังคับบัญชาว่าจะดำเนินการอย่างไร
“กรณีที่มีการยิงกันและกล่าวอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น แท้จริงแล้วเจ้าหน้าที่ได้นำหมายเข้าไปตรวจค้นอย่างถูกต้อง ส่วนเหตุจูงใจในการต่อสู้ไม่น่าจะเป็นการเข้าใจผิด” แหล่งข่าวกล่าว
