เจาะลึกแรงจูงใจ “ลีโอ” ก่อเหตุยิงไม่ยั้ง ตร.พัทยานำหมายศาลบุกบ้าน เชื่อแค้นฝังหุ่นถูกคนมีสีบุกรีดเงิน 18 ล้าน ซ้ำถูกขู่ฆ่าหลายวันติด จนประกาศลั่นใครเข้าบ้านยิงทันทีโดยจะไม่ขอถูกปล้นเป็นครั้งที่ 2
ทีมข่าวเฉพาะกิจเจาะลึกเหตุจูงใจกรณี นายจาง หยาง อายุ 35 ปี หรือที่รู้จักกันในแวดวงมาเฟียว่า “ลีโอ” ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก ยิงใส่ ร.ต.อ.พันธ์เทพ ศรีบุญนาค รอง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา ขณะนำหมายศาลพัทยาเข้าตรวจค้นบ้านหลังมีพฤติกรรมอันเป็นเหตุน่าสงสัยเรื่องการเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยจนร่ำรวยผิดปกติ
จนถูกกระสุนปืนเข้าที่หน้าอก ไหล่ หน้าท้องจำนวน 3 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ผบ.หมู่ สส.สภ.เมืองพัทยาถูกยิงที่ฝ่าเท้า จำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บเช่นกันนั้น
เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจากความผยองของกลุ่มชาวจีนที่เข้ามาทำงานสีเทาในเมืองพัทยา และ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีผู้กว้างขวางรายหนึ่งที่ถูกวางตัวให้เป็นเจ้าพ่อตะวันออกคนใหม่แทนหลงจู๊ ที่เพิ่งถูกจับกุมในคดีบ่อนพนัน เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ
และว่ากันว่า ผู้กว้างขวางรายนี้เป็นที่ไว้ใจของชาวจีนกลุ่มสีเทาเป็นอย่างมากเพราะสามารถเคลียร์ปัญหาต่างๆ ให้ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดกับกลุ่มคนมีสี
ที่สำคัญก่อนเกิดเหตุนาย “ลีโอ” ยังถูกขู่ฆ่าติดต่อกันหลายวัน และยังมีเรื่องแค้นฝังใจหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มคนมีสีบุกเข้าบ้านรีดทรัพย์เป็นเงินสูงถึง 18 ล้านบาทหลังมีการสืบทราบข้อมูลทางการเงินว่าจะมีการนำเงินจากธุรกิจสีเทาและบ่อนพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ในครั้งนั้น “ลีโอ” ต้องจำใจจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวาย แต่ความแค้นที่เกิดขึ้นในใจทำให้ถึงขั้นประกาศกร้าว “ใครเข้ามาบ้านจะถูกยิงเพราะไม่อยากถูกปล้นเป็นครั้งที่ 2”
อย่างไรก็ดี การนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านหรูภายในสนามกอลฟชื่อดัง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อต้องการหาหลักฐานตรวจสอบเส้นทางการเงินและการฟอกเงินของแก๊งคนจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่
หลังพบว่ามีการซื้อที่ดินแถวอ่างเก็บน้ำมาบประชันเป็นจำนวนมาก และยังมีทรัพย์สินอีกมหาศาลอยู่ในเขต ต.หนองปรือ อ. บางละมุง ไม่นับรวมบ้าน รถยนต์ สนามยิงปืน และยังมีธุรกิจพนันออนไลน์ข้ามชาติ
วันนี้คนในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ฟ้าจะเปิดทางให้เรื่องที่มืดมิดยาวนานในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จะสดใส สว่าง และปราศจากข้อครหาของสังคมที่ว่า “คนมีเงินทำอะไรก็ได้ ซื้อใครก็ได้รวมทั้งข้าราชการไทยที่ยอมให้คนต่างบ้านต่างเมืองเข้ามามีอิทธิพลด้วยการใช้เงินซื้อ”
จนนำมาซึ่งการได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงขั้นเสียชีวิตของกำลังพลในสังกัดในหลายต่อหลายครั้งและหลายต่อหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะพฤติกรรมของชาวต่างชาติหลายกลุ่มในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างพัทยา ที่ในวันนี้ทำตัวเหิมเกริมและไม่เคยเคารพต่อกฎและกติกาของคนในพื้นที่
โดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยมีชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะช่วงการแพร่ราดอย่างหนักของโรคโควิด-19 จนถึงเหตุล่าสุดที่นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลต้องเป็นเหยื่อกระสุนของชาวต่างชาติทั้งที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีคนมีสี หรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ที่สำคัญทรัพย์สินจำนวนมากของ “ลีโอ” ต้องมีคนไทยเป็นผู้จัดซื้อ แต่เหตุการณ์อุกอาจถึงขั้นยิงตำรวจอาจดับฝันเส้นทางฟอกเงินในประเทศไทยและอาจทำให้ผู้มีอิทธิพลบางคนในภาคตะวันออกถึงขึ้นหมดแหล่งเงินทุนสนับสนุน จนสุดท้ายอาจกลายเป็นปลาตายน้ำตื้นได้แบบง่ายๆ เช่นกัน