นครปฐม - ตำรวจนครชัยศรีเร่งติดตามคลี่คลายปมหนุ่มลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี เข้าม่านรูดและทิ้งไว้ก่อนผู้เสียหายจะตัดสินใจหนีออกมาจากโรงแรมดังกล่าว โดยตำรวจแกะรอยพบหนุ่มคนดังกล่าวเป็นคนราชบุรี ขณะที่แม่น้องอร วอนสังคมเข้าใจเด็กพลาดเพราะเดียงสา แค่ต้องการไปกินข้าว ไม่ได้คิดว่าไปโรงแรม
วันนี้ (18 พ.ค.) จากกรณีแม่พาลูกสาววัย 13 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ว่าน้องอร (นามสมมติ) บุตรสาวได้ถูกหนุ่มที่รู้จักกันในออนไลน์ ชื่อแอปพลิเคชัน HELLO YO ถูกล่อลวงเข้าโรงแรมม่านรูด และกระทำชำเรา ก่อนจะทิ้งไว้ในโรงแรมม่านรูดทั้งคืน ก่อนบุตรสาวจะหนีออกมาในช่วงบ่าย
ล่าสุด พ.ต.อ.ณฐพงษ์ มุกดาหาร ผู้กำกับการตำรวจภูธรนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและคลี่คลายคดีเข้าประชุมสรุปการติดตามชายคนดังกล่าว และทำการเชิญแม่ลูกมาทำการสอบปากคำอีกครั้งเพื่อหาแนวทางในการทำงาน โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น ก่อนส่งทีมออกหาข่าวและติดตามตัวชายที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งก่อนหน้าได้มีการสอบเอาข้อมูลเบื้องต้นจากทั้งแม่เด็กและตัวน้องอร และไปตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิดในที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะมีข้อมูลในการติดตามคดีดังกล่าว
ต่อมา นายสุทธิรักษ์ ฤทธิ์พันธ์ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งระบุว่า ตนเองเป็นนายจ้างของชายคนที่ปรากฏว่าเป็นคนที่ก่อเหตุ โดยบอกว่า ชายคนนี้ชื่อเล่นว่า นายโอ หรือนายอรรถพล โนนจุ่น อายุ 27 ปี เป็นพนักงานขับรถของบริษัทรับเหมาของตนเอง ซึ่งเพิ่งสมัครงานมาใหม่ได้เพียง 15 วันเท่านั้น
นายสุทธรักษ์ บอกว่า นายโอ ได้ใช้รถของบริษัทขับไปรับน้องอร ตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด และได้เอากลับไปจอดไว้ที่บริษัทแต่ได้ขับรถของบริษัทตนเองอีก 1 คัน ขับหลบหนีไปซึ่งมีเบอร์โทรแต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ช่วงที่กำลังให้สัมภาษณ์ได้มีลูกน้องโทร.เข้ามาบอกว่า นายโอ ได้ขับรถที่หลบหนีอีกคันไปจอดไว้ที่หน้าสหกรณ์โคนมหนองโพ ที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และหลบหนีต่อไปอีก ซึ่งตอนนี้ได้รถทุกคันคืนมาครบแล้ว ซึ่งจะรอดูอีกทีว่าจะแจ้งความเอาผิดกับนายโอ ในข้อหาเอารถของตนเองไปได้หรือไม่ด้วย ส่วนภาพที่ปรากฏในสื่อนั้นคือนายโอ ที่ยังหลบหนี ซึ่งในรถพบหลักฐานใบขับขี่และบัตรอาสามัคร อสป.อำเภอบางแพ คล้ายหน่วยงานรัฐตกในรถด้วย
ด้าน นางอุษา (นามสมมติ) มารดา บอกว่า วันนี้หลังเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมม่านรูดที่ลูกสาวถูกล่อลวงไป ซึ่งเมื่อเห็นภาพแล้วหดหู่ใจสงสารลูกสาว เพราะเขามีท่าทีหวาดกลัวและต้องวิ่งหลบๆ ซ่อนๆ ออกมาจากโรงแรม และทราบว่าก่อนจะมาพบรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้นมีระยะทางไกลมาก ซึ่งที่คนบอกว่าลูกสาวตนเองใจแตก ภาพนี้น่าจะเป็นสิ่งบอกได้ดีว่าเขายังเด็กมาก แม้จะมีร่างกายที่ดูโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
นางอุษา เผยว่า วันนี้รู้สึกเครียดมากกับข่าวที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีกระแสทำนองตำหนิว่าลูกสาวของตนเอง จึงขอบอกว่าอยากให้อ่านเนื้อข่าวให้เข้าใจก่อนว่าจริงๆ แล้วน้องถูกหลอกลวงให้ไป วอนขอสังคมให้เห็นใจด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.ณฐพงษ์ มุกดาหาร ผู้กำกับการตำรวจภูธรนครชัยศรี เผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งไล่กล้องในจุดต่างๆ ไว้แล้ว เพื่อติดตามนายโอ มาสอบสวน ซึ่งตอนนี้กำลังจะสรุปเพื่อออกหมายจับให้ได้ในวันนี้ และสำหรับคดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ซึ่งช่วงเย็นที่ผ่านมา มารดาของนายโอ ได้เข้ามาพบและแจ้งว่าชายที่ปรากฏเป็นข่าวคือ บุตรชายของตนเองจริง โดยยืนยันจะมีการติดตามเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอให้ทางนายอรรถพล หรือโอ ให้เข้ามาพบตำรวจโดยเร็ว
ส่วนแอปพลิเคชัน HELLO YO ที่เป็นประเด็น ผู้สื่อข่าวได้ทดลองเข้าไปใช้งานซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มซึ่งมีการใช้งานเป็นการสนทนาแบบกลุ่มโดยใช้เสียงแทนการพิมพ์อักษร โดยจะแบ่งหมวดหมู่ตามการตั้งค่าของผู้ใช้งาน ใน 1 ห้องจะใช้งานได้ 9 คน รวมผู้ตั้งห้องขึ้นมา ซึ่งจะสามารถล็อกห้องเพื่อคุยกันแบบ 2 คนส่วนตัวได้ โดยจะมีฟังก์ชันสำรวจ คนที่อยู่ใกล้เคียงโดยบอกระยะชัดเจน เป็นแบบ GPS และคนที่ตั้งห้องบางห้องทำนอง โสดมาคุยกัน มีการขายสติกเกอร์และไอเทม โดยมีการเติมเงินส่งให้คู่สนทนาได้
โดยจะไม่สามารถเช็กอายุได้ และการจะส่งไอเทมให้ก็จะมีราคาระบุไว้ เช่น เพชร 47 ดวง เป็นเงิน 29 บาท และสูงสุด 9,350 เพชร เป็นเงิน 4,700 บาท ซึ่งจะมีไอเทมปราสาทใต้แสง จะใช้จำนวน 100,000 เพชร เป็นเงิน 4 หมื่นกว่าบาท เป็นต้น