นครปฐม - แม่เผยเป็นอุทาหรณ์ ลูกสาววัย 13 ปี เล่นแอปพลิเคชัน HELLO YO ช่วงงอนกับแม่ไม่กี่ชั่วโมง ถูกลวงออกไปจากหมู่บ้านว่าจะพาไปกินข้าวแต่พาเข้าโรงแรมม่านรูด ก่อนปล่อยทิ้งไว้ลำพังต้องหาทางกลับบ้านเอง ยอมรับลูกสาวติดโทรศัพท์มือถือหนักโชคดีไม่ถูกเอาไปฆ่า ถือเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต
ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นางอุษา (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ว่าบุตรสาว คือน้องอร (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ได้ถูกชายวัยกลางคน คาดว่าคือนายเอกชัย ล่อลวง ไปกระทำชำเราภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมีการล่อลวงจากการใช้แอปพลิเคชันที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือ ชื่อ Hello YO ซึ่งตอนนี้ได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นครชัยศรี และได้ตรวจร่างกายไว้แล้วที่โรงพยาบาลนครชัยศรี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นประสบการณ์ที่คนเป็นแม่นั้นเกิดความทุกข์และวอนให้ตำรวจเร่งติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีด้วย
นางอุษา กล่าวว่า ตนเองได้เลิกรากับพ่อของน้องอร มาตั้งแต่ลูกสาวอายุได้เพียง 1 ขวบ แต่ยังติดต่อดูแลบุตรสาวเรื่อยมา ซึ่งทางพ่อของเขาได้บอกว่างานยุ่ง และน้องอร อยู่ในวัยกำลังเป็นสาวติดโทรศัพท์มือถือมาก ขอให้เอาน้องมาช่วยดูแล เพราะมีภาระต้องเปิดร้านอาหารตามสั่ง เนื่องจากต้องเร่งหารายได้ในช่วงโควิด-19 ระบาด ไม่มีเวลาดูแล ซึ่งตนเองได้รับมาดูแลเมื่อ 2 เดือนก่อน และพบว่าลูกสาวมีพฤติกรรมติดโทรศัพท์มือถืออย่างหนัก จึงได้เร่งวางแผนจะฝึกการทำงานและหวังจะหารายได้ให้ลูกสาวด้วยการฝึกอาชีพช่างทำผมและทำอาหารให้ลูกสาวช่วยกันหาเลี้ยงชีพในช่วงนี้ แต่ตนเองมีภาระเพราะต้องเลี้ยงลูกสาวที่มีกับสามีใหม่ โดยช่วยกันทำงานก่อสร้างหารายได้กันรายวันในช่วงนี้
นางอุษา บอกอีกว่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือเมื่อหัวค่ำวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้ทะเลาะกับลูกสาว ซึ่งได้สั่งให้ไปล้างจานแต่ยังไม่ได้ทำตามที่สั่งจึงได้ตำหนิไป ทำให้น้องอร มีอาการงอน และได้ลงไปนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือที่สนามเด็กเล่น ที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร กระทั่งเวลา 3 ทุ่มเศษบอกให้ลูกสาวขึ้นมาบนห้อง แต่เจ้าตัวไม่ยอมขึ้นมานอน จึงได้บอกผ่านโปรแกรมไลน์ไปว่าถ้าไม่มาจะล็อกห้องแล้ว แต่เงียบไม่ตอบ ซึ่งตอนนั้นตนเองได้เผลอหลับไปเพราะทำงานก่อสร้างมาทั้งวัน แต่มาสะดุ้งตื่นช่วงเที่ยงคืน และมองไปที่ลูกสาวนอน แต่พบว่าไม่มีจึงได้เดินลงไปหาที่สนามเด็กเล่น และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ.ว่าเห็นลูกสาวว่าเดินไปที่ไหนบ้าง และได้บอกสามีให้ขี่จักรยานยนต์ไปตามหาทั่วอาคารใกล้เคียงแต่ไม่พบ จนมาพบเจ้าหน้าที่ รปภ.บอกว่า ได้นำภาพกล้องวงจรปิดมาดูพบว่ามีรถกระบะสีบรอนซ์เงินขับมารับออกไปแล้ว
นางอุษา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนเองพยายามขี่รถจักรยานยนต์ไปนอกหมู่บ้านเพื่อจะตามมาดูในช่วงดึก แต่ไม่พบ และคิดว่าคงจะไปนอนที่บ้านญาติในอาคารถัดไป
พร้อมทั้งโดยได้โพสต์เฟซบุ๊กให้ช่วยติดตามหาลูกสาว กระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 15 พ.ค. ได้มีสายโทรศัพท์ของคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างบอกว่าเอาลูกสาวมาส่งที่หน้าหมู่บ้าน เพราะเห็นลูกสาววิ่งเตลิดอยู่ริมถนนเพชรเกษม โดยเมื่อมาพบลูกสาวตนเองทั้งดีใจทั้งตกใจเพราะสภาพลูกสาวเนื้อตัวมอมแมม จึงรีบขึ้นมาที่ห้องและสอบถามจนลูกสาวบอกว่า ถูกชายคนหนึ่งที่พบกันใน แอปพลิเคชัน HELLO YO ซึ่งเพิ่งคุยกันไม่กี่ชั่วโมง นัดหมายมารับบอกว่าจะพาไปกินข้าว
แต่ได้พาไปเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง และกระทำชำเราลูกสาวไป 3 รอบ ก่อนช่วงเช้าจะบอกว่าจะไปข้างนอกและจะกลับมารับ แต่ก็ทิ้งไว้ไม่กลับมาจนลูกสาวตัดสินใจวิ่งออกมาจากโรมแรมดังกล่าว ก่อนจะมีคนมาส่ง ซึ่งตนเองได้ไปแจ้งความแต่พนักงานสอบสวนได้ออกเวรไปแล้ว จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้และนำบุตรสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามชายดังกล่าวมาดำเนินคดี
ด้านน้องอร บอกว่า ช่วงที่งอนแม่นั้นได้ลงมาเล่นโทรศัพท์มือถือโดยเล่นแอป HELLO YO ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบพูดคุยกันได้ โดยเปิดเป็นห้องไว้ให้คุย ตนเองลองค้นหาคนที่อยู่ใกล้เคียงพบว่ามีห้องนี้เปิดอยู่มีคนที่อยู่ในห้อง 2 คน ชาย 1 คน และหญิง 1 คน จึงได้เข้าไปคุยด้วย แต่พอคุยกันไปสักพักชายคนนี้ชื่อเอกชัย (นามสมมติ) ได้เอาชื่อของผู้หญิงออกจากห้องสนทนาและล็อกห้องเอาไว้ไม่ให้ใครลงชื่อมาคุยด้วยได้ คุยได้ถึง 4 ทุ่มก็ชวนออกไปซึ่งตนเองบอกว่าหิวข้าวเพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็น นายเอกชัย ได้บอกว่าจะมารับไปกินข้าวซึ่งไม่นานเขาก็มารับจริงๆ ตนเองก็ได้ออกไปด้วย
น้องอร บอกอีกว่า แต่เมื่อออกไปแล้วเขาพาไปที่ห้องเช่าของเขา ตนเองนั่งรอในรถไม่ได้ลงไป สักพักเขากลับมาแล้วบอกว่าจะไปกินข้าว แต่พาเข้าไปที่โรงแรมม่านรูดซึ่งอยู่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งเดียวกับหมู่บ้านโครงการ แล้วเข้าซอย เมื่ออยู่ในห้อง 2 คน นายเอกชัย ได้พยายามจะมากอดจูบ ตนเองได้พยายามบอกว่าอย่าทำแต่ไม่สำเร็จ นายเอกชัยได้ทำตนเองไป 2 ครั้ง ตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่าถึงประมาณเที่ยงคืน และช่วงตี 4 อีก 1 ครั้ง ก่อนที่จะออกไปโดยบอกว่าให้รอช่วง 4 โมงเช้าจะมารับ แต่พอเวลาผ่านไปถึงบ่าย 3 โมงก็ไม่มา ตนเองจึงได้ตัดสินใจวิ่งหนีออกมาจากโรงแรม และเดินหาทางกลับบ้านกระทั่งมาพวินรับจ้างจึงขอให้ไปส่งที่บ้านแม่
ทั้งนี้ หลังจากการสอบถามข้อมูลเสร็จสิ้น น้องอร ได้เปิดแอปดังกล่าวเพื่อจะติดตามหาตัวนายเอกชัย แต่พบว่าบล็อกรายชื่อของน้องอร ไปแล้ว ซึ่งเมื่อเอาหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ทำการลงชื่อเข้าไปพบว่ามีการปรากฏภาพใบหน้าของชายคนดังกล่าว คือ ชายคนที่พาตนเองไปในคืนนั้นโดยมีรอยสักอยู่ต้นแขนด้านขวาด้วย