กาฬสินธุ์ - “วิรัช” รวมพลัง อสม.เดินหน้าเคาะประตูบ้านรณรงค์ให้ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมจัดผ้าป่ามอบประกันภัยโควิดให้กับทีมนักรบเสื้อเทา ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เชิญชวนข้าราชการและประชาชน ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่หยุดโควิด-19
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านต้อน ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายนิราช สืบมา ประธาน อสม.อ.เมืองกาฬสินธุ์ และเลขาสมาคม อสม.จ.กาฬสินธุ์ นายชวน อะโนศรี ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านต้อน พร้อมคณะลงพื้นที่ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมนำทีม อสม.นักรบเสื้อเทาออกเดินเคาะประตูบ้าน เพื่อรณรงค์และเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการฉีดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564
นอกจากนี้นายวิรัช และคณะยังได้ลงพื้นที่ให้ความรู้กับ อสม.และรณรงค์การฉีดวัคซีนกับประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยโพธิ์ ต.เชียงเครือ ต.หลุบ และ ต.ลำพาน อ.เมือง พร้อมระดมทุนจากญาติมิตร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ จัดกองทุนผ้าป่ามอบประกันภัยโควิด-19 ให้กับ อสม.และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ร่องคำ และ อ.กมลาไสยกว่า 3,000 คน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าอีกด้วย
นายวิรัช กล่าวว่า การเข้าเคาะประตูบ้านครั้งนี้ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ความรู้ที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชนในเรื่องการฉีดวัคซีน ซึ่งฉีดแล้วมีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและไม่มีผลข้างเคียง โดยหากประชาชนสามารถฉีดวัคซีนได้ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านออกมาฉีดวัคซีนกันให้มากๆ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและหยุดเชื้อโควิด-19
ด้าน นางพวงเพชร บุตรสาวิเศษ ประธานชมรม อสม.ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ช่วงแรกๆที่มีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 และมีการฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง มีข่าวที่ไม่เป็นความจริงทางโซเชียลออกมาว่าเกิดผลข้างเคียงและเสียชีวิต ตนและสมาชิก อสม.หลายคนก็เกิดความกังวลอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นได้รับฟังข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ว่าการฉีดวัคซีนมีผลข้างเคียงกับผู้รับการฉีดน้อยมาก และสามารถป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคคิด-19 อย่างได้ผล ก็หายกังวล ตนและสมาชิก อสม. จึงได้ร่วมลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกับลงทะเบียนสมัครประกันภัยโควิดอย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 14/2564 ซึ่งมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานนอกจากจะเป็นการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 แล้ว ยังเชิญชวนประชาชนออกมาฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และในที่ประชุมยังได้ร่วมกันจัดแผนกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงไว้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
หากพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นขณะนี้เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ยังไม่พบผู้ต้องขังป่วยโรคโควิด-19 แต่อย่างใด
นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-16 รอบ 3 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 99 ราย หายป่วยและส่งตัวกลับบ้านแล้ว 66 ราย กำลังรักษา 32 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ให้กับข้าราชการและประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เบื้องต้นทาง จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่ม อสม. กลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าตำรวจ ทหาร กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค ซึ่งล่าสุดมีความประสงค์รับวัคซีนอยู่ประมาณ 230,000 คน โดยบุคคลในกลุ่มดังกล่าวต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
ขณะนี้ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับวัคซีนและฉีดไปแล้ว 11,880 โดส และในสัปดาห์นี้จะได้รับสรรมาอีก 6,000 โดส ซึ่งจะเริ่มฉีดในต้นเดือนมิถุนายน 2564 นี้ โดยจะเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค อีกทั้งจะจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในเรือนจำที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังด้วย นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อยังได้เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงไว้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเบื้องต้นขณะนี้เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่พบผู้ต้องขังป่วยโรคโควิด-19 แต่อย่างใด