xs
xsm
sm
md
lg

ตร.อยุธยารวบคนร้ายตกงานช่วงโควิด-19 ตั้งแก๊งลักตัดสายเคเบิล มูลค่ากว่า 2 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - 3 คนรายตระเวนขับรถยนต์กระบะตัดสายเคเบิล ก่อเหตุซ้ำในเขตพื้นที่อำเภออุทัย โดยทั้ง 2 เหตุการณ์ กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 ได้อย่างชัดเจน มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

วันนี้ (14 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ณัฎฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายสมเกียรติ สุภาชัย โทรศัพท์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายสุวิทย์ หรือไมค์ เชนไร้ อายุ 31 ปี ชาวกำแพงเพชร พร้อมด้วยของกลางรถยนต์อีซูซุ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บว 648 พระนครศรีอยุธยา พร้อมสายเคเบิล และสายทองแดงจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์คีมที่ใช้สำหรับตัดสายเคเบิล


การจับกุมครั้งนี้ พ.ต.อ.ประเวศศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประสานจากผู้แทนบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 ได้เกิดเหตุมีคนร้ายลักตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนหลายครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการจับกุมคนร้ายลักตัดสายเคเบิลในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดเหตุหลายจุด

พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฎฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ฉัตรชัย แสงรื่น สว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวนออกสืบสวนและลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย และลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่คนร้ายได้ก่อเหตุ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีด้วยกัน 3 คน คือ นายสุวิทย์ หรือไมค์ เชนไร้ อายุ 31 ปี ชาวกำแพงเพชร ถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จึงนำตัวมาสอบสวน และรับสารภาพ ว่า เพื่อนร่วมขบวนการยังหลบหนีอยู่คือ นายน้ำมนต์ เป็นน้องแท้ๆ ของตนเอง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการออกหมายจับ และยังพบเป็นเยาวชนชายอีก 1 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ส่วนผู้ก่อเหตุที่จับกุมได้ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์จำนวน 5 ครั้ง ในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา


นายสุวิทย์ สารภาพว่าได้ร่วมกันกับผู้ต้องหาที่ ออกตระเวนลักตัดสายเคเบิล โดย นายน้ำมนต์ น้องชาย เป็นคนดึงสายเคเบิลใช้คีมตัดสาย และเยาวชนชายอายุ 15 ปี จะเป็นคนดูต้นทาง ส่วนตนเองจะมีหน้าที่คอยขับรถ และช่วยเก็บสายเคเบิล จากนั้นน้องชายเป็นคนนำสายเคเบิลไปเผาเอาทองแดงอยู่กลางทุ่งในอำเภออุทัย

จากนั้นนำทองแดงไปขายในร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมาก็จะแบ่งให้ตนครั้งละ 1,000 ถึง 2,000 บาท โดยตนเองจะนำเงินไปส่งค่างวดรถเพราะตกงานช่วงโควิด-19 ก่อนหน้าเคยเอารถยนต์ของตนเองที่ใช้ก่อเหตุเข้าร่วมขับรถส่งพัสดุและหมดสัญญาว่าจ้างเมื่อเดือนเมษายน จึงได้หันมาก่อเหตุกับน้องชายตระเวนตัดสายเคเบิลเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย จนมาถูกจับกุม


เบื้องต้น ตำรวจจะได้ขยายผลตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าที่คนร้ายอ้างว่านำไปขายตั้งอยู่ในอำเภออุทัย

ด้านนายสมเกียรติ สุภาชัย โทรศัพท์จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในปี 2564 พื้นที่ 16 อำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกขโมยลักตัดสายเคเบิลหลายครั้ง เฉพาะในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ภายใน 1 เดือนคนร้ายลักตัดสายเคเบิล จำนวน 5 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท เป็นความเสียหายที่มากและประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่มูลค่าที่คนร้ายนำไปขายได้ประมาณ 20% ถึง 30% เท่านั้น พร้อมขอขอบคุณ พ.ต.อ.ประเวศศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้ประสานชุดสืบสวน เพื่อให้เข้มงวดกวดขันจับกุมผู้ลักลอบตัดสายเคเบิลและสายโทรศัพท์ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ดำเนินการจับกุมอย่างเข้มแข็งและจริงจัง

ฝากถึงประชาชน หากพบเห็นผู้ที่มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจในยามค่ำคืนสามารถโทร.แจ้งตำรวจได้ที่ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกันร่วมแจ้งเบาะแสเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


กำลังโหลดความคิดเห็น