บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์งัดกฎเหล็กออกคำสั่ง กก.โรคติดต่อจังหวัดฯ ให้ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้เจ้าพนักงานมีอำนาจสั่งผู้มีความเสี่ยงฉีดวัคซีนตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนด ใครฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ระวางโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13/2564 เรื่อง “การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564” ลงวันที่ 13 พ.ค. 2564 ลงนามโดย นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบุรีรัมย์
โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ระลอกใหม่ในประเทศไทยและหลายจังหวัดยังคงมีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคของ ศบค. และเพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อาศัยตามอำนาจ พ.ร.ก.โรคติดต่อ 2558 และ พ.ร.ก.การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 พ.ค. 2564 แล้วให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์ ที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 ดังนี้
ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ CR code BURIRAM IC ในฐานข้อมูลกลาง จ.บุรีรัมย์สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสียงการติดเชื้อฯ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ข้อ 2 ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ/เจ้าหน้าที่สาธารสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป
ข้อ 3 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศคำสั่งดังกล่าว ผ่านเครือข่าย อสม.และผู้นำชุมชน ได้มีประชาชนชาว จ.บุรีรัมย์ มาลงทะเบียนขอฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก