xs
xsm
sm
md
lg

คนกาญจน์ต้องรีบอ่านด่วน พรุ่งนี้ 1 พ.ค.ต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน เผลอโดนปรับ 2 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ชาวเมืองกาญจน์ต้องรีบอ่านด่วน พรุ่งนี้ 1 พ.ค. ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งหลังจากออกจากบ้าน เผลอโดนปรับ 2 หมื่น ขณะที่วันนี้ยอดผู้ติดเชิ้อโควิด-19 เพิ่ม 13 ราย

เวลา 17.00 น.วันนี้ (30 เม.ย.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ออกประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 2099/2564 เรื่อง ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คำสั่งระบุว่า ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1819/2564 ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 เรื่อง ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่ออยู่ในบริเวณตลาด ตลาดนัด และตลาดน้ำทุกแห่ง และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นในเดือนเมษายน 2564 อันเป็นช่วงวันหยุดเทศกาล


โดยในระลอกนี้ผู้ติดโรคจะไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อยมากในระยะแรก จึงทำให้โรคแพร่กระจายไปในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน และต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22(1)(7) และ 34(6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7(1) และข้อ 11ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จึงออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2564


โดยกำหนดให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดกาญจนบุรีจึงยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1819/2564 ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 จึงมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งอย่างถูกวิธีตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนักของตน และเข้าไปในพื้นที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องไปติดต่อกับบุคคลอื่น ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2(1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ถึง สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 30 เม.ย.64 ว่า วันนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มขึ้นอีก จำนวน 13 ราย เป็นหญิง 10 ราย ชาย 3 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 129 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ จำนวน 2 ราย รวมสะสม 46 ราย รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล จำนวน 83 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 13 ราย

สรุปตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 จนถึงปัจจุบัน จังหวัดกาญจนบุรีพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในพื้นที่ จำนวน 129 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ใน 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ทองผาภูมิ จำนวน 4 ราย อ.เมืองกาญจนบุรี จำนวน 48 ราย อ.ท่าม่วง จำนวน 17 ราย อ.ไทรโยค จำนวน 2 ราย อ.พนมทวน จำนวน 10 ราย อ.ท่ามะกา จำนวน 27 ราย อ.ด่านมะขามเตี้ย จำนวน 2 ราย อ.ห้วยกระเจา จำนวน 1 ราย อ.หนองปรือ จำนวน 17 ราย และ อ.บ่อพลอย จำนวน 1 ราย

ทั้งหมดแยกเป็นผู้ป่วยหญิง จำนวน 85 ราย ชาย จำนวน 44 ราย โดยในวันนี้ (30 เม.ย.) มีผู้ป่วยรักษาหาย จำนวน 2 ราย คือ รายที่ 54 และรายที่ 90 รวมผู้ป่วยรักษาหายสะสม จำนวน 46 ราย รักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 83 ราย สำหรับอำเภอที่ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 มี 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เลาขวัญ อ.ศรีสวัสดิ์ และ อ.สังขละบุรี


กำลังโหลดความคิดเห็น