กลายเป็นกระแสข่าวที่อยู่ในความสนใจของคอหวยทั้งประเทศ เมื่อศาล จ.ตราด ออกหมายจับ น.ส.จิตรา โยธาภิรมย์ หลังก่อเหตุโกงเงินซื้อขายลอตเตอรี่จากนักลงทุนในพื้นที่ที่ว่ากันว่ามีตั้งแต่ระดับนักลงทุนใหญ่ เจ้าของธุรกิจ นักการเมืองระดับจังหวัดและท้องถิ่น ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มนักค้ายาเสพติดที่หาลู่ทางฟอกเงินจนมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,400 ล้านบาท
และมีผู้เสียหายทั่วภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า 100 คน ที่สำคัญผู้ก่อเหตุอาศัยจังหวะความซบเซาทางเศรษฐกิจดูดเงินออกจากบัญชีผู้มีอันจะกินที่ไม่หวังดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยจากเงินฝากธนาคาร แต่หวังสร้างความร่ำรวยจากผลตอบแทนด้วยการปั่นราคาขายลอตเตอรี่จากใบละราคา 80 บาท ไปจนถึง 98 บาทตามความต้องการของผู้คนที่หมดหวังในการทำมาหากินได้อย่างแยบยล
ทั้งนี้ แม้เจ้าตัวจะเข้ามอบตัวต่อตำรวจเป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่คาใจใครหลายคนคือ หญิงสาวผู้นี้เป็นใครและมีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ รวมถึงเหตุใดจึงสร้างความไว้ใจให้แก่ผู้คนจนกล้าทุ่มเงิน ร่วมลงทุน ก่อนปล่อยทีเด็ดเชิดเงินหนีด้วยข้ออ้าง “ไม่ตั้งใจโกงแต่ราคาลอตเตอรี่ผันผวนจนหมุนเงินไม่ทัน”
วันนี้ “manager online” มีคำตอบ “เจ - จิตรา โยธาภิรมย์” สาวตราดวัย 30 ปี เป็นบุตรสาวคนที่ 3 ของ นายชาลี และนางตัวม่วย โยธาภิรมย์ ซึ่งประกอบอาชีพดั้งเดิมคือการเปิดร้านขายอาหารและยังเป็นผู้ค้าสลากกินแบ่งรายย่อยใน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด มานานหลายสิบปี
และด้วยความที่ครอบครัวนี้ยึดอาชีพค้าสลากกินแบ่งมานาน จึงมีความใกล้ชิดกับเอเยนต์ใหญ่ในกองสลากและยังได้มีโอกาสล่วงรู้ถึงกลไกการค้าอย่างลึกซึ้ง ทำให้ในช่วงใน 5-10 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวโยธาภิรมย์ สามารถสร้างรากฐานการค้าและต่อยอดธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่ จ.ตราดและภาคตะวันออกได้อย่างมั่นคง
ไม่เพียงเท่านั้น พี่สาวของ เจ-จิตรา ยังเป็นลูกสะใภ้ผู้กว้างขวางทางธุรกิจใน จ.ตราด ขณะที่ตัว เจ-จิตรา เองก็สมรสกับ นายกฤตภพ หรือเบิร์ด ผ่องชมภูสกุล ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ จึงไม่น่าแปลกใจที่เหตุใดจึงได้รับความไว้วางใจจากผู้คนในหลายวงการ
จุดเด่นของ เจ-จิตรา ยังอยู่ที่การคบหาเพื่อนฝูงในระดับเศรษฐีจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะก้าวสู่วงการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ในพื้นที่ได้ด้วยวัยเพียง 29 ปี และยังกุมวงเงินหมุนเวียนจากการค้าลอตเตอรี่ทั่วภาคตะวันออกได้มากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย
จากการเปิดเผยของผู้เสียหาย รวมทั้งลูกค้ารายย่อยหลายรายให้ข้อมูลตรงกันว่า เจ-จิตรา เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี 2562 หลังจัดรูปแบบการค้าผ่านระบบออนไลน์ในลักษณะซื้อมาขายไป และยังสร้างเครือข่ายการค้าลอตเตอรี่แบบลูกโซ่ จนสามารถสร้างกำไรให้แก่ผู้ร่วมลงทุนได้อย่างรวดเร็ว
และจากการสร้างเครดิตแบบมีเครือข่ายจึงทำให้เกิดการชักชวนกันแบบปากต่อปาก ตามมาด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่เพิ่มจากหลักหมื่น เป็นหลักแสนถึงหลักล้าน และหลายสิบล้านในเวลาแค่เพียง 2 ปี
ส่วนผู้ไม่มีเงินทุนก็ใช้วิธีเปิดให้เข้ามาเป็นผู้ค้ารายย่อยด้วยการนำลอตเตอรี่ที่นักลงทุนรายใหญ่โอนเงินเข้าบัญชีเหมาซื้อแบบยกก้อนและสมัครใจใช้ระบบขายฝากเพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยนำไปขายต่อก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อยได้แบบสบายๆ
โดยมีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “บ้านรวยโชค” เป็นศูนย์กลางรับจองซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ล่วงหน้า 20 วัน) ซึ่งการเปิดขายแบบยกก้อนจำนวน 200 ใบ จะมีราคาตั้งแต่ 16,000-17,000 บาท
แต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้ากลุ่มเป็นผู้ระดมเงินจากผู้ที่อยากร่วมลงทุน ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีกลุ่มทุนใหญ่เข้าร่วมประมาณ 4 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มอดีตนายตำรวจใหญ่ที่มีวงเงินลงทุนต่องวดมากกว่า 500 ล้านบาท กลุ่มทุนศรีราชา เงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท กลุ่มนักธุรกิจบันเทิงลงทุนกว่า 120 ล้านบาท
และกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ในพื้นที่ที่ประกอบด้วย เจ้าของโรงแรมชื่อดังในพื้นที่ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและอดีตนักการเมืองท้องถิ่น ที่ในวันนี้ยังไม่มีใครกล้าเปิดเผยตัว ซึ่งแต่ละเจ้าจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทต่องวด
ทั้งนี้ หัวหน้ากลุ่มที่ได้โควตาในอันดับต้นๆ จะใช้วิธีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารและจะได้โควตาลอตเตอรี่ในราคาใบละ 80 บาท ก่อนจะกระจายต่อไปยังผู้ค้ารายย่อยที่จะนำไปปั่นราคาต่อตั้งแต่ใบละ 95 เรื่อยไปจนถึงใบละ 100 บาท ซึ่งหน้ากลุ่มจะสามารถสร้างผลกำไรต่อใบได้สูงสุดถึงใบละ 15-20 บาทเลยทีเดียว
ในช่วง 1-2 ปีแรกของการเปิดธุรกิจค้าลอตเตอรี่แนวใหม่ ผู้ร่วมลงทุนทุกรายจะได้รับผลตอบแทนแบบตรงไปตรงมาจากการโอนเงินเข้าบัญชีในทุกงวดจนสามารถสร้างความเชื่อถือให้แก้ทั้งตัว เจ-จิตรา และครอบครัวได้เป็นอย่างดี นำมาซึ่งจำนวนคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในวันนี้ว่ากันว่ามูลค่าความเสียหายโดยรวมน่าจะไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาทตามจำนวนผู้เสียหายที่ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความมากขึ้นเรื่อยๆ
เครือข่ายใหญ่กุมการค้าลอตเตอรี่ 1 ใน 4 ของมูลค่าขายสลากกินแบ่งทั้งประเทศ
และจากการตั้งข้อสังเกตของ นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่ว่าสาววัยเพียง 30 ปีไม่น่าจะมีความรู้ความสามารถมากพอที่จะดูแลการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีเงินหมุนเวียนถึงปีละ 50,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 4 มูลค่าขายสลากกินแบ่งแต่ละงวดได้
โดยเชื่อว่าน่าจะมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง หรือมีผู้ร่วมขบวนการที่ใหญ่กว่าและน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะจากการตรวจสอบพบว่า มีการจัดการลูกค้าหรือผู้ร่วมธุรกิจอย่างเป็นระบบ
ที่สำคัญคดีในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ และเมื่อเกิดการแจ้งความดำเนินคดีขึ้น สุดท้ายอัยการก็จะไม่สั่งฟ้องและผู้เสียหายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เช่นเดียวกับคดีนี้ที่เชื่อว่าน่าจะอาจมีการตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงตัวการใหญ่
โดยเฉพาะการที่ เจ-จิตรา เดินทางไปมอบตัวที่ตำรวจภูธรภาค 2 โดยอ้างเหตุผลเรื่องของความปลอดภัย ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าน่าจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จนทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่เรียกร้องให้มีการโอนคดีไปยังกองปราบ เพราะไม่ไว้ใจตำรวจพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ต. สายเพชร ศรีสังข์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ที่เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องหลายคนและล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดตราด ให้ออกหมายจับเพิ่มแล้ว 3-4 ราย
สุดท้ายจึงต้องจับตาดูว่าคดีโกงระดับภาคเช่นนี้จะลงเอยอย่างไร และ เจ-จิตรา จะยอมเปิดปากถึงผู้ร่วมขบวนการรายใหญ่ที่มีกระแสข่าวลือว่าเป็นถึงนายตำรวจระดับบิ๊กด้วยหรือไม่ คงต้องติดตาม