เชียงใหม่ - เชียงใหม่แจงรายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตรายที่ 12 เป็นหญิงไทยอายุ 67 ปี พบโรคประจำตัวทั้งความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ติดเชื้อจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูง สั่งยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรค คัดกรองเข้มงวดคนเดินทางเข้าพื้นที่ทุกรูปแบบ ทุกคนต้องลงทะเบียน CM CHANA
วันนี้ (10 พ.ค. 64) ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่แถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน โดยวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 22 ราย ซึ่งถือว่าเป็นยอดต่ำกว่า 50 รายติดต่อกัน 8 วันมาแล้ว โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,916 ราย รักษาหายแล้ว 3,183 ราย คิดเป็นร้อยละ 81 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภทจำนวน 721 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 12 ราย
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีผู้เสียชีวิตรายล่าสุดว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สัญชาติไทย อายุ 65 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โดยได้เดินทางไปจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง ต่อมาวันที่ 13 เม.ย. 64 มีอาการไข้ หายใจเหนื่อยเล็กน้อย จึงรับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนมีผลเป็นบวก ได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสันทราย เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยมากขึ้น ระดับค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำลง ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสชนิดรับประทาน และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนครพิงค์
จากนั้นวันที่ 24 เม.ย. 64 มีอาการเหนื่อยมากขึ้น ได้รับการรักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจใส่เครื่องช่วยหายใจ และส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เนื่องจากมีภาวะปอดอักเสบรุนแรง ทำให้ปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ โดยแพทย์เริ่มให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสชนิดฉีด ยาลดการอักเสบของปอด และยาปฏิชีวนะชนิดที่ครอบคลุมเชื้อในวงกว้าง
ต่อมาตรวจพบว่ามีปัญหาการติดเชื้อราแทรกซ้อน จึงได้รับยาต้านเชื้อราชนิดฉีดเข้าหลอดเลือด และทำการฟอกเลือดเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย ผู้ป่วยมีอาการซึมลงจึงได้ส่งตัวเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบมีภาวะแทรกซ้อนคือมีเลือดออกในสมอง มีอาการทรุดลง การทำงานของปอดแย่ลงและความดันโลหิตต่ำลด แพทย์ได้ให้ยากระตุ้นความดันโลหิต แต่ไม่สามารถประคับประคองความดันโลหิตได้ จึงทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีพบผู้โดยสารจากสายการบินติดเชื้อโควิด-19 และเดินทางเข้าเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้สามารถติดตามผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็ว เป็นผลจากการมีระบบการลงทะเบียนผ่าน CM-CHANA ทำให้ทางจังหวัดได้ทราบถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงจุดหมายปลายทางของผู้เดินทางเข้าเชียงใหม่
ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้น โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ จะมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องของทุกหน่วยงานทำการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ให้มีการลงทะเบียนผ่าน CM-CHANA และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง สังเกตอาการอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน
ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีการตั้งด่านคัดกรองบนถนนนั้น เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าอาจจะเป็นการสร้างอุปสรรคในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทางจังหวัดเชียงใหม่มีมาตรการรัดกุมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 3 แนวทาง คือ หากท่านใดที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่และพักอาศัยยังโรงแรมต่างๆ จะขอความร่วมมือสถานประกอบการโรงแรมให้ผู้ที่เข้าพักลงทะเบียน CM-CHANA ด้วยเช่นกัน
ขณะที่แนวทางที่สองขอ ความร่วมมือพี่น้องทุกท่าน หากมีญาติพี่น้องเดินทางมาจากจังหวัดอื่นโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเสี่ยงสูง ให้มีการบอกต่อในเรื่องของการลงทะเบียน CM-CHANA ซึ่งหากมีเหตุการณ์ที่ต้องการติดตามตัวจะได้แจ้งเหตุได้ทันที และแนวทางที่สาม ให้คณะกรรมการโควิดหมู่บ้านชุมชน เน้นย้ำให้ตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ชุมชน ทั้งที่มาจากจังหวัดอื่นๆ หรือคนในชุมชนที่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงแล้วเดินทางกลับมา ขอให้มีการคัดกรองและสังเกตอาการ รวมถึงลงทะเบียน CM-CHANA ด้วย
สำหรับการสอดส่องการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ เช่น การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว การรวมกลุ่มสังสรรค์ การเล่นการพนัน หรือกิจกรรมที่มีการรวมคน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมากในการรับโรค ขอให้ประชาชนช่วยกันยกการ์ดสูงในการที่จะป้องกันการกระทำความผิดในทุกรูปแบบ พร้อมสอดส่องตรวจตรา หากพบสิ่งที่ผิดปกติในพื้นที่ต้องแจ้งทางฝ่ายปกครองและตำรวจในพื้นที่เพื่อที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
