ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศิษย์ทั่วประเทศหลั่งไหลกราบสรีระสังขาร พร้อมสรงน้ำ หลวงพ่อกล้วย ประธานสงฆ์วัดป่าธรรมอุทยาน จ.ขอนแก่น เผยเตรียมบรรจุสรีระสังขารในโลงแก้ว ตั้งสวดพระอภิธรรม 100 วัน
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่วัดป่าธรรมอุทยาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น พุทธศาสนิกชน พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และลูกศิษย์จากทั่วประเทศ ต่างเดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อกล้วย หรือพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร ประธานสงฆ์วัดป่าธรรมอุทยาน หลังทราบข่าวการมรณภาพของเกจิชื่อดัง ซึ่งท่านมรณภาพด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เวลา 16.00 น. ภายในวัดป่าธรรมอุทยาน
ทางวัดได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนสรงน้ำศพภายในวิหารหยก ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ไปจนถึง 15.00 น. โดยมีนายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น เป็นประธาน ทางวัดป่าธรรมอุทยานได้ตั้งจุดคัดกรองหน้าทางเข้าวัด ส่วนภายในวิหารหยกจัดให้พุทธศาสนิกชนนั่งห่างกันตามจุดที่กำหนดไว้ และมีเจ้าหน้าที่จัดระเบียบตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร หรือหลวงพ่อกล้วย ประธานสงฆ์วัดป่าธรรมอุทยาน ขอนแก่น ได้ละสังขารเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 16.00 น. สิริอายุ 61 ปี 39 พรรษา โดยตั้งสรีระสังขารไว้ที่วิหารหยก วัดป่าธรรมอุทยาน กม.11 ถ.มิตรภาพ บ้านสำราญ-บ้านเพี้ยฟาน ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สำหรับประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภูมิหลังนามเดิม สำราญ นามพรมมา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2502 ภูมิลำเนาเดิมบ้านทองหลาง หมู่ที่ 6 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังหลวงพ่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านทองหลาง แล้วมาสอบเข้า มศ.1 ที่โรงเรียนแก่นนคร อ.เมืองขอนแก่น โดยมากับเพื่อนๆ ทั้งหมู่บ้าน 20 คน มีหลวงพ่อสอบติดคนเดียว หลวงพ่อกล้วยเป็นศิษย์เก่าแก่นนครรุ่นเดียวกับ ยอดเล็ก สิงห์ภูเขียว (นักมวย)
ต่อมาเมื่ออุปสมบท ท่านตั้งใจจะบวชที่เมืองเลย กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ก็มีอันไม่เป็นดังที่ตั้งใจ เนื่องจากปู่ ซึ่งเลี้ยงหลวงพ่อมาตั้งแต่เล็กๆ และเป็นคนตั้งชื่อท่านว่า “สำราญ” เสียชีวิตลง ท่านจึงบวชหน้าไฟให้ปู่ในวันที่ 24 ตุลาคม 2524 เวลา 10.15 น. โดยมีพระครูสังฆรักษ์เฉลิม เป็นพระอุปัชฌาย์ (ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์พระครูเขมาภิยุติ) พระอธิการ บุญชม ปริสุทฺโธ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการ ดวง ปคุณธมฺโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมาวัดไตรคามบำรุง บ้านโคกนางาม ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น และท่านก็ได้บวชจนทุกวันนี้
หลังจากบวช ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านโคก อยู่ในหมู่บ้านเพี้ยฟาน (ทิศใต้ของวัดป่าธรรมอุทยาน) ตอนกลางวันท่านก็อยู่ที่วัดหมู่บ้าน พอกลางคืนท่านก็เข้าไปที่ป่าช้ารกๆ ซึ่งปัจจุบันคือวัดป่าธรรมอุทยาน เพื่อนั่งสมาธิตัดความกลัว ละความอยากออกให้หมด จนกระทั่งประมาณใกล้รุ่งท่านก็กลับวัดบ้านโคก หลวงพ่อเคยเดินธุดงค์ไปที่ถ้ำแสงเพชร จังหวัดอำนาจเจริญ และช่วยดูแลหลวงปู่โสม ถิรจิตโต ท่านอยู่ที่วัดถ้ำแสงเพชรปีกว่า ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าตามเขาแล้วกลับมาที่ขอนแก่น
หลวงพ่อกล้วย ท่านมาจำวัดที่ในป่าช้าเพียงลำพัง และท่านก็เริ่มทำความสะอาดป่าช้า โดยจัดระเบียบให้เรียบร้อย และพัฒนาวัดมาเรื่อยๆ ตามกำลัง จนกลายเป็นวัดป่าธรรมอุทยานอันโด่งดังเป็นที่รู้จักของญาติโยมทั่วประเทศในปัจจุบันนี้ มีญาติโยมที่ศรัทธาแวะเวียนมาปฏิบัติธรรมมากมายไม่ขาดสาย