มหาสารคาม - หนุ่มหมอลำซิ่งคณะ “สุรชัยใจภักดี” วางไมค์ชั่วคราวเพราะพิษไวรัสโควิด-19 แต่สู้ไม่ถอย พาทีมงานถือครกจับสากตำส้มตำขายพ่วงด้วยอาหารท้องถิ่นอีสานอีกหลายเมนู เผยแต่ละวันขายได้ 2,000-3,000 บาทพอแบ่งปันให้ลูกน้องได้จุนเจือเลี้ยงดูพ่อแม่และลูกเมีย
เป็นภาพที่ใครเห็นก็อดชื่นชมในความเป็นคนสู้ชีวิตไม่ได้สำหรับ นายสุรชัย ใจภักดี หัวหน้าวงหมอลำซิ่ง “สุรชัย ใจภักดี” พร้อมด้วยทีมงานหมอลำซิ่ง ประกอบไปด้วย บอยสะเกษ ไหทองคำ/นายฮ่อยเทน คนบันเทิง พักงานเวทีหมอลำซิ่งที่ถูกยกเลิกคิวงานกว่า 20 คิวงานตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 หันมาแต่งชุดหมอลำซิ่งถือครกจับสากตำส้มตำแทน
นอกจากส้มตำแล้ว พวกเขายังขายอีกหลายเมนูที่เป็นจานเด็ดท้องถิ่นอีสาน หารายได้เลี้ยงดูครอบครัว โดยอาศัยทำเลโชว์ลีลาตำส้มตำให้แก่ลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาลิ้มรสบริเวณข้างตลาดชุมชนบ้านส่อง ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
นายสุรชัย ใจภักดี ในฐานะหัวหน้าวงหมอลำซิ่ง เล่าว่า ตนเป็นคนบ้านโนนลาน ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม อาชีพหลักเลี้ยงตัวและครอบครัวมาตลอดคือหมอลำซิ่ง โดยหัดเรียนกับ อาจารย์ไพบูลย์ เสียงทอง สามารถออกงานแสดงคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง มีคิวการแสดงเกือบทุกวัน
โดยเฉพาะคิวงานช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมามีมากกว่า 26 งาน เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วตนจะมีรายได้นับแสนบาท แต่เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่มีงานทำ เจ้าภาพงานยกเลิกหมด
ทีมงานเวทีเครื่องเสียงกว่า 30 คนต่างแยกย้ายกลับบ้านเกิดตั้งแต่ในช่วงแรกที่เกิดการระบาด ตนเองก็ไม่รู้จะทำอาชีพอะไรเพราะทำเป็นอย่างเดียวคือร้องลำซิ่ง ได้แต่ใช้เงินเก็บไปวันๆ จนกระทั่งมีวันหนึ่งคิดว่าจะหารายได้เพื่อเลี้ยงปากท้องของตนเองรวมไปถึงทีมงานที่เคยร่วมสุขกันมา จึงศึกษาการตำส้มตำ และขอความรู้เพื่อนๆ ที่เปิดร้านขายส้มตำ รวมทั้งชิมส้มตำตามร้านต่างๆ แล้วนำมาดัดแปลงเป็นสูตรของตนเอง
โดยมีสูตรเด็ดคือน้ำปลาร้าของน้องสาว เมื่อตำแล้วให้เพื่อนๆ ชิมดูหลายครั้งก็บอกว่าอร่อย ประกอบกับน้องสาวเปิดร้านปลาเผาอาหารอีสานอยู่แล้ว ตนจึงมาขอเปิดขายด้วย น้องสาวก็ยินดี โดยเปิดร้านขายส้มตำมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ตอนแรกแทบไม่มีลูกค้า เมื่อตนและทีมงานแต่งชุดหมอลำ ร้องเล่นเต้นไปด้วยทำให้ลูกค้าเริ่มสนใจ แวะมาชิมไม่ขาดสาย ลูกค้าหลายรายที่กลับมาซื้อใหม่จนเป็นขาประจำ
ส่วนเมนูที่ร้านประกอบไปด้วย ส้มตำ ตำลาว ตำรวมทะเล ตำรวมประเภทต่างๆ มากมายนับ 10 เมนู นอกจากนี้ยังมีต้มแซ่บเครื่องในหมู ต้มแซ่บตีนไก่ สำหรับราคาจำน่ายไม่แพง เริ่มต้นที่ส้มตำครกละ 30 บาท ครกใหญ่สุดขาย 80 บาท ส่วนปลาเผาพร้อมเครื่องเคียงราคา 150 บาท และต้มแซ่บ 50 บาท
สำหรับรายได้ในแต่ละวันราว 2,000-3,000 บาท จ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท และจ่ายให้ทีมงาน เดือนหนึ่งเหลือไม่กี่บาท แต่ก็มีความสุข ตนและทีมงานมีงานทำ สร้างความอร่อยสร้างความสุขด้วยลีลาหมอลำ แค่นี้ตนก็พอใจ
ส่วนสาเหตุที่แต่งชุดหมอลำเพราะใจรักด้านอาชีพนักร้องนักแสดงจึงแต่งชุดหมอลำ รวมทั้งทีมงานก็แต่งชุดหมอลำเหมือนลำอยู่บนเวทีเพื่อสร้างความสุขให้ลูกค้า ซึ่งตอนนี้ลูกค้าติดปากว่าส้มตำหมอลำซิ่งไปแล้ว