สระบุรี - สระบุรีพร้อมเปิดค่ายลูกเสือเจ็ดคตโป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม 100 เตียง รองรับผู้ป่วยจากสถานการณ์โควิด-19 หลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันนี้ (21 เม.ย.) นายแพทย์ประสิทธิ์ชัย มั่งจิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก่งคอย รักษาราชการในตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี นายสุจิน บุญมาเลิศ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายประภาส เกลื่อนเพชร หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจความคืบหน้าและความพร้อมการจัดเตรียมสถานที่ภายในค่ายลูกเสือเจ็ดคตโป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่จะจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยจากสถานการณ์โควิด-19
ตามคำสั่งของนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หลังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งให้ทุกจังหวัดจัดเตรียมสถานที่รองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดสระบุรี ได้มีการเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ โดยวันนี้เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ได้นำอุปกรณ์ที่จำเป็น เครื่องนอน ติดตั้งทีวี พัดลม ระบบอินเทอร์เน็ต เครื่องมือสื่อสาร ดูความพร้อมด้านสาธารณูปโภคน้ำ ไฟฟ้า ห้องน้ำ สถานที่อาคารสำหรับแยกชายหญิง จุดคัดกรอง อาคารสำหรับปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ การฉีดพ่นยา และระบบป้องกันตามมาตรการการควบคุมโรค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ป่วย ญาติ และชุมชน
นายแพทย์ประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีได้รับคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทยและประสานกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมสถานที่เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามก็เริ่มดำเนินการทันทีโดยค่ายลูกเสือเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า อยู่ในความดูแลและความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี มีความสะดวกและเหมาะสม ซึ่งจะสามารถรองรับได้ประมาณ 100 เตียง
โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะมีระบบดูแลตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 22 เม.ย.นี้
สำหรับจังหวัดสระบุรี ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 19 เมษายน 2564 รวม 62 ราย รักษาหายแล้วออกจากโรงพยาบาล 1 ราย โดยมีผู้ที่เสี่ยงสูงสะสมระลอกเดือนเมษายน จำนวน 270 ราย และติดตามได้ครบทั้ง 270 ราย มีการส่งตรวจตรวจหาเชื้อ (สะสม) 13,315 ราย ขณะเดียวกัน มีผู้เสี่ยงสูงเข้ากักตัวสถานที่รัฐจัดให้ 205 ราย กักตัวอยู่บ้าน 65 ราย ครบกำหนดกักตัวไปแล้ว 43 ราย
