เชียงใหม่ - คืบหน้าเหตุพายุฝนและลูกเห็บถล่มอำเภอแม่วางทำต้นไม้ล้มทับช้างแม่ลูกดับคาที่ 2 เชือก และบาดเจ็บอีก 4 เชือก ล่าสุดตายเพิ่มอีก 1 เชือกเนื่องจากอาการสาหัสกะโหลกแตก ทีมสัตวแพทย์สุดยื้อแม้พยายามเต็มที่
ความคืบหน้ากรณีช่วงเย็นวานนี้ (14 เม.ย. 64) เกิดพายุฝนและลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน และมีช้างถูกต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับตายจำนวน 2 เชือก คือ พังแม่มูล อายุ 40 ปี กับลูกน้อยพลายแบงค์ อายุ 3 ปีครึ่ง และมีช้างได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 4 เชือก บริเวณปางช้างแม่วาง ภายใต้การดูแลของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมนั้น รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ช้างที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าวชื่อ พลายโจ๊ะ ได้ตายลงเพิ่มอีก 1 ตัว เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สัตวแพทย์หญิง สิตฏยา จรรยาเมธากุล สัตวแพทย์สมาคมสหพันธ์ช้างไทย เปิดเผยว่า ปางช้างที่เกิดเหตุมีช้างทั้งหมด 6 เชือก ช่วงเย็นวานนี้เกิดพายุฝนและลูกเห็บอย่างรุนแรง ทำให้ต้นตะเคียนขนาดใหญ่ล้มลงทับช้างทั้ง 6 เชือก ตาย 2 เชือก บาดเจ็บ 4 เชือก โดยหนึ่งในนั้นคือ พลายโจ๊ะ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังเกิดเหตุสมาพันธ์ช้างไทยพร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือทันที พบว่าพลายโจ๊ะกะโหลกยุบอาการสาหัสจากการถูกต้นไม้ล้มใส่ ซึ่งทีมสัตวแพทย์ลงความเห็นร่วมกันว่าจะทำการรักษาโดยไม่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากกระดูกแตกหลายจุดและการเคลื่อนย้ายอาจไม่ปลอดภัยต่อช้าง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทีมสัตวแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือชีวิตช้าง แต่สุดท้ายช้างได้สิ้นใจลงในเวลาประมาณ 22.00 น. ส่วนช้างที่เหลืออีก 2 เชือกที่ถูกกิ่งไม้ฟาดลงมามีอาการบาดเจ็บตาม ร่างกายหลายจุด ทางทีมสัตวแพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลช้างที่จังหวัดลำปางแล้ว ขณะที่ยังมีช้างที่ยังเหลืออยู่ในปางแห่งนี้อีก 1 เชือก ชื่อน้องแพรวา ซึ่งจากการตรวจสภาพร่างกายแล้วพบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยทีมสัตวแพทย์ได้ประเมินดูอาการแล้วพบว่าปลอดภัยดี