ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเร่งนำเครื่องมือหนักซ่อมแซมพื้นที่ชายหาดตั้งแต่พัทยาเหนือจดพัทยาใต้ หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากฝนแรงพัดทรายเซาะหน้าชายหาดไหลลงทะเล
จากกรณีที่มีฝนตกหนักในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมาจนทำให้มีมวลน้ำเอ่อเข้าท่วมขังบริเวณชายหาดตั้งแต่พัทยาเหนือไปจนถึงพัทยาใต้จนเกิดปัญหาน้ำเซาะทรายเป็นหลุมขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลและการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์เป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุด วานนี้ (12 เม.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่สำนักการช่างได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหายบริวเณชายหาด พร้อมให้เจ้าหน้าที่ได้นำรถ JCB และรถแบ็กโฮเข้าเกลี่ยผืนทรายชายหาดให้กลับคืนสู่สภาพเหมือนเดิม
โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานการช่างได้นำทรายถมคืนบริเวณชายหาดที่ถูกน้ำพัดพาทรายลงทะเลตั้งแต่บริเวณซอย 4 ถึงซอย 5 ไปจนถึงหน้าฝั่งชายหาด และจะเร่งดำเนินการปรับหน้าทรายชายหาดให้กลับมาคืนสภาพเดิมภาย 2-3 วัน
นายสนธยา เผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อนถือว่ามีปริมาณน้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองพัทยา โดยพบว่ามีปริมาณฝนมากถึง 88 มิลิเมตร ขณะที่ฝนซึ่งตกในครั้งที่ผ่านๆ มา จะมีปริมาณเพียง 30-40 มิลิเมตรเท่านั้น ซึ่งฝนหนักครั้งล่าสุดได้ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างทันทวงที
ประกอบกับฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ไม่ได้ตกเฉพาะในเขตเมืองพัทยาเท่านั้น แต่ยังตกบริเวณรอบนอกด้วยเช่นกัน จึงทำให้มวลน้ำ จากเทศบาลเมืองหนองปรือ ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันไหลมายังเมืองพัทยาเกินกว่า 45 เมตรและยังเป็นกระแสน้ำที่ไหลค่อนข้างแรงและเร็วจนทำให้การระบายน้ำทำได้ไม่ทัน
และนอกจากจะทำให้พื้นที่บริเวณชายหาดได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว ชุมชนต่างๆในเมืองพัทยาก็ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกอย่างหนักเช่นกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุ เมืองพัทยา ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน