บุรีรัมย์ - พายุฝนกระหน่ำอย่างหนักในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ส่งผลให้น้ำท่วมขังถนนหลายสาย รถสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ทั้งยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุกว่า 20 ปี หักโค่นล้มทับรถยนต์เสียหาย 1 คัน ด้านเมืองช้างฟ้าผ่าวัวดับคาทุ่งนารวมลูกในท้อง 4 ตัว
วันนี้ (4 เม.ย.) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ต่อเนื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำเอ่อท่วมขังถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์สูงกว่า 30 เซนติเมตร เช่น ถนนแสนสุข ถนนอินจันทร์ณรงค์ ถนนจิระ ถนนธานี ถนนนคร และถนนอนุวรรตน์ บางช่วง โดยเฉพาะถนนแสนสุขซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะฝนตกมักจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเป็นประจำ ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และน้ำเอ่อล้นท่อระบายน้ำส่งกลิ่นเหม็น รวมทั้งประชาชนขับรถสัญจรผ่านไปมาด้วยความลำบาก
ทั้งนี้ สาเหตุที่น้ำเอ่อท่วมเนื่องจากท่อระบายน้ำระบายไม่ทัน ภายในท่อมีสิ่งปฏิกูล เศษขยะ และถุงพลาสติกเข้าไปอุดตัน ส่งผลให้น้ำท่วมขังนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถระบายได้และเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ถนนบางสายที่มีพื้นที่ต่ำยังคงมีน้ำท่วมขัง
ขณะที่ชาวบ้านทั้งสองข้างถนนที่ถูกน้ำท่วมดังกล่าว รวมทั้งประชาชนที่สัญจรไปมาได้ขอให้เทศบาลฯ เร่งออกมาสำรวจ เนื่องจากน้ำระบายไม่ทันจึงเกิดมีน้ำท่วมขังทุกครั้งที่มีฝนตก สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านมานานหลายปี จึงร้องขอให้เทศบาลฯ เร่งเข้ามาสำรวจและจัดสรรงบประมาณขยายท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อคลายความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและประชาชนที่สัญจรไปมา
ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ทุกครั้งที่เกิดฝนตกน้ำจะเอ่อท่วมขังถนนแสนสุขเป็นประจำ ทำให้ประชาชนที่ใช้ถนนสัญจรเส้นทางนี้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนสองข้างทางเดือดร้อน มีน้ำเอ่อท่วมทะลักเข้าบ้านด้วย เทศบาลตั้งชื่อถนนแสนสุข แต่ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านมีความสุขเหมือนชื่อถนนเลย น่าจะเป็นชื่อถนนแสนทุกข์มากกว่า จึงอยากฝากถึงนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์คนใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาสำรวจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน เพราะเกิดขึ้นซ้ำซากมานานหลายปีแล้ว
ขณะเดียวกัน จากพายุฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นตะโกขนาดใหญ่มีอายุกว่า 20 ปี โค่นล้มลงมาทับรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้บนถนนพิทักษ์ ริมฟุตปาธใกล้กับคลองละลมโบราณ ลูกที่ 1 ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้รับความเสียหายด้วย 1 คัน ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ต้องใช้เลื่อยช่วยตัดกิ่งไม้ออกจากตัวรถ ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ขณะที่ จ.สุรินทร์ ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านดู่ หมู่ที่ 5 ตำบลนารุ่ง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ว่า ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าวัว 3 ตัวขณะหากินหญ้าที่บริเวณทุ่งนาใกล้กับหมู่บ้าน ทำให้วัวตายทั้งหมด 3 ตัว รวมทั้งวัวแม่ลูกอ่อนกำลังตั้งท้องทำให้ลูกในท้องตายไปด้วย รวมเป็นวัวที่ถูกฟ้าผ่าตายในครั้งนี้จำนวน 4 ตัว ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบวัวจำนวน 3 ตัวนอนตายอยู่กลางทุ่งนา และเจ้าของวัวได้ว่าจ้างรถบรรทุกหกล้อนำวัวที่ตายขึ้นรถนำกลับมาที่บ้าน และได้มีพ่อค้าเนื้อวัวเดินทางมาขอซื้อวัวทั้ง 3 ตัวรวมทั้งลูกในท้องในราคา 15,000 บาท พ่อค้าเนื้อวัวได้นำขึ้นรถปิกอัพเพื่อจะนำไปชำแหละขายต่อไป
นายตรีวิทย์ ศุภนาม อายุ 23 ปี เจ้าของวัว เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ได้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นโดยมีฟ้าร้อง ฟ้าคะนอง และเกิดฟ้าผ่าเสียงดังน่าหวาดกลัว ชาวบ้านไม่กล้าออกไปนอกบ้าน พากันหลบในบ้านเรือน ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ปล่อยวัวออกหากินตามทุ่งนาไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก พอสิ้นเสียงฟ้าร้องและฟ้าคะนองชาวบ้านก็พากันออกไปดูวัวที่เลี้ยงไว้ตามทุ่งนา ปรากฏว่าเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์มาบอกว่าวัวของตนจำนวน 3 ตัวถูกฟ้าผ่าตายทั้งหมด 3 วัว รวมทั้งลูกในท้องแม่รวมเป็น 4 ตัว
ตนได้รีบออกไปดูพบว่าวัวนอนตายไม่ห่างกันมากนักเป็นสภาพที่น่าสงสารมาก ตนมีวัวทั้งหมด 3 ตัว เป็นวัวเพศเมีย 2 ตัว ตัวหนึ่งอายุราว 4 ปี กำลังตั้งท้อง อีกหนึ่งตัวเป็นวัวเพศผู้ อายุ 2 ปีเศษ จึงได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านให้ช่วยนำซากวัวกลับเข้ามาในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันบรรดาพ่อค้าภายในตลาดสดเทศบาลตำบลศีขรภูมิทราบข่าวได้ขับรถเข้ามาซื้อวัวที่ถูกฟ้าผ่าเพื่อนำไปชำแหละ ซึ่งตนคิดว่าถ้าเก็บเอาไว้หรือนำไปฝังดินคงจะไม่ได้อะไร จึงขายตัวละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท เพื่อจะได้นำเงินไปซื้อวัวตัวใหม่มาเลี้ยงทดแทนวัวที่สูญเสียไป
