เชียงใหม่ - “ศรีสุวรรณ” แฉหลักฐานเพียบทุจริตเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านแห่ส่งข้อมูลพบจ่ายเงินซื้อเสียงกันดุเดือดหัวละ 1,000-2,000 บาท ให้ผู้นำชุมชนเป็นหัวคะแนน แถมหนักข้อถึงกับยืนจ่ายกันหน้าหน่วยเลือกตั้ง ขณะที่ผู้สมัครบางรายขึ้นป้ายหราสัญญาว่าจะให้ ผิด กม.เลือกตั้งชัดเจน เตรียมรวบรวมร้อง กกต.หลังช่วงหยุดยาวสงกรานต์
วันนี้ (12 เม.ย. 64) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ส่งข้อมูลและหลักฐานการทุจริตหรือการซื้อสิทธิขายเสียงในการแข่งขันเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 64 ที่ผ่านมามาให้สมาคมฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลักฐานต่างๆ ค่อนข้างชัดเจนว่าในการเลือกตั้งดังกล่าวที่มีการแบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 4 แขวง คือ แขวงนครพิงค์ แขวงกาวิละ แขวงเม็งราย และแขวงศรีวิชัย มีหลักฐานชี้ชัดว่าพื้นที่เขตเลือกตั้งดังกล่าวมีการซื้อขายเสียงกันอย่างดุเดือดมากตั้งแต่หัวละ 1,000-2,000 บาทเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่หัวคะแนนที่นำเงินมาซื้อเสียงนั้นจะเป็นประธานชุมชนหรือแกนนำชุมชนที่เป็นที่รู้จักและเกรงใจกันของลูกบ้าน ทั้งๆ ที่ประธานชุมชนถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาล ซึ่งควรที่จะวางตัวเป็นกลาง แต่กลับมีพฤติกรรมเป็นหัวคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างไม่ละอาย
ขณะเดียวกัน นายศรีสุวรรณบอกด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งได้มาร้องเรียนว่าพบเห็นหัวคะแนนของผู้สมัครนายกเทศมนตรีรายหนึ่งมายืนจ่ายเงินซื้อเสียงกันบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวกลับไม่มีการสังเกตพบเห็นพฤติกรรมหรือการกระทำดังกล่าว พร้อมกันนี้ ผู้สมัครบางรายยังมีการจัดทำป้ายคัตเอาต์ และการโพสต์ในสื่อออนไลน์หาเสียงในลักษณะสัญญาว่าจะให้หากได้รับการเลือกตั้งแล้ว อาทิ การจ้างงานแก้โควิด-19 ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่สามารถปล่อยผ่านได้เพราะถือเป็นการเลือกตั้งที่เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม โดยตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนดข้อห้ามและบทลงโทษเอาไว้ชัดเจน ผู้ใดฝ่าฝืนย่อมมีความผิด ทั้งหัวคะแนน และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ทำตัวละเว้นเพิกเฉย
โดยตามกฎหมายดังกล่าว มาตรา 65(1)(2) กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ด้วยวิธีการจัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด และหรือให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อนำไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทันทีที่เปิดทำงานตามปกติหลังเทศกาลสงกรานต์ เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยเอาผิดและลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้สมัครที่มีส่วนรู้เห็นและหรือเป็นต้นเหตุของการกระทำดังกล่าวด้วยต่อไป
