xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ”จ่อร้อง กกต.วินิจฉัยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็น อสม.เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นต่างๆ อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง ตาม พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 โดยกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมากถึง 26 ข้อนั้น

แต่ปรากฏว่า มีข้อสงสัยกันมากเนื่องจากมี “อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน” หรือ “อสม.” ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นกันเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ หรือบางรายอาจเป็นผู้ช่วยหาเสียง หรือทีมงานหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งก็มี จึงมีข้อถกเถียงกันว่า อสม.เป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ที่รับค่าป่วยการเป็นเงินเดือนประจำ ซึ่งอาจต้องห้ามตามการกำหนดคุณสมบัติในข้อ 12 ที่ว่า ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และข้อ 14 ที่ว่า ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ ส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีคำวินิจฉัยอันเป็นที่สุดว่าเป็นเช่นไร

ทั้งนี้ เนื่องจาก อสม.นั้นมีระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2554 รองรับ และมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สิทธิได้รับเงินค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2560 และ(ฉบับที่ 2) 2562 จากเงินงบประมาณแผ่นดิน โดยกำหนดให้เบิกจ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน ในอัตรา 1,000 บาทต่อคน นอกจากนั้นยัง มีสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือในการ รักษาพยาบาล ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษ จากโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการดําเนินการตามบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบได้ มีสิทธิจะได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามหลักเกณฑ์ได้ และอื่นๆอีกมากมาย เฉกเช่นเดียวกันกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วไป

ดังนั้นหากให้ อสม.สามารถมีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ก็ย่อมจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้ เนื่องจาก อสม.ใช้เงินแผ่นดินในการทำงานสร้างปฏิสัมพันธ์หรือหาเสียงกับชุมชนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาโดยตลอด ย่อมทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันในการเลือกตั้งในแต่ละท้องถิ่นได้

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้วินิจฉัยประเด็นปัญหาดังกล่าวในวันที่ 25 มี.ค.64 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B เพื่อให้การเลือกตั้งทุกระดับเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม