เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำประกอบพิธีบวงสรวงสักการะดวงพระวิญญาณ 3 กษัตริย์ผู้สร้างเมือง เนื่องในโอกาสวันครบรอบเชียงใหม่ 725 ปี โดยจำเป็นต้องงดเว้นการทำบุญตักบาตรและไร้ขบวนช่างฟ้อนหลายร้อยคนเหมือนปกติเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
เช้าวันนี้ (12 เม.ย. 64) ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะแด่บูรพกษัตริย์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ และกิจกรรมยอสวย ไหว้สาพญามังราย เพื่ออัญเชิญดวงพระวิญญาณผู้ก่อตั้งและเจ้าเมืองผู้ครองนครเชียงใหม่ทุกพระองค์ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมารับเครื่องราชสักการะที่จัดถวายตามประเพณีล้านนา เนื่องในโอกาสครบรอบ 725 ปีแห่งการก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ นับตั้งแต่ที่พญามังราย, พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองและก่อตั้งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 1839
ทั้งนี้ กิจกรรมนี้ตามปกติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีจะมีพิธีทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า จากนั้นมีขบวนแห่เครื่องสักการะบวงสรวง พร้อมขบวนช่างฟ้อน และเมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้วยังถือเป็นการเริ่มต้นงานประเพณีปีใหม่เมือง หรืองานสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ซึ่งปีนี้เดิมมีการซักซ้อมช่างฟ้อนประมาณ 500 คนเข้าร่วมพิธีอย่างยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความรุนแรงขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ต้องประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากทุกชนิด ทั้งการทำบุญตักบาตร งดขบวนฟ้อน เหลือเพียงการถวายเครื่องราชสักการะแด่บูรพกษัตริย์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงใหม่เท่านั้น เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีให้คงอยู่ และเพื่อความเป็นสิริมงคล
แม้จะงดกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ไปหลายอย่าง แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังสามารถไปร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ ได้ เช่น การเข้าวัด ทำบุญ สรงน้ำพระ ตามวัดสำคัญในเมืองเชียงใหม่ได้ โดยมีการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ทั้งการตรวจคัดกรองวัดไข้ ให้สแกนคิวอาร์โค้ดก่อนเข้างาน การเว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 200 คน และผู้เข้าร่วมงานต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วย เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19