กำแพงเพชร - จนท.ยุติธรรมฯ ลงพื้นที่หาทางช่วยตายายกำแพงเพชรโดนยึดบ้าน-ที่ดินขายทอดตลาดจน 18 ชีวิตส่อไร้ที่อยู่..พบลูกแอบกู้ กยศ.เรียนไม่พอ เอาโฉนดค้ำกู้ ธ.ก.ส.เสร็จไม่ใช้หนี้อีก เรื่องลามจนสิ้นกระบวนการกฎหมาย
วันนี้ (1 เม.ย. 64) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชรได้เดินทางไปตรวจสอบ-พูดคุยกับสองตายายที่ออกมาร้องสื่อตามหาลูกชายให้กลับบ้าน หลังลูกกู้เงิน กยศ. 130,000 บาทแล้วไม่ได้ใช้ จากนั้นได้มาขอโฉนดที่ดินไปจำนองกับ ธ.ก.ส.ได้เงินมา 4 แสนบาท แต่ไม่นำเงินไปใช้หนี้ กยศ. สุดท้ายถูกศาลสั่งบังคับคดีให้ขายที่ดินพร้อมบ้าน กระทั่งมีผู้ประมูลซื้อไปแล้วขึ้นป้ายประกาศขายต่อในราคากว่า 8 แสน
เบื้องต้นพบว่าคดีได้สิ้นสุดไปตามกระบวนการ ตั้งแต่ กยศ., ศาล, สำนักงานบังคับคดี ซึ่งได้ประกาศขายทอดตลาด จนกระทั่งมีผู้มาซื้อที่ดินดังกล่าว-ทำสัญญาซื้อขายพร้อมวางมัดจำไปเรียบร้อยแล้ว ถือว่ากระบวนการทางกฎหมายเป็นที่สิ้นสุด สิ่งที่ทำได้คือทางเจ้าของบ้านเดิมจะต้องนำเงินไปจ่ายให้ครบตามจำนวนที่ตกลงซื้อขายกันไว้ ส่วนจะลดราคาหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ นายเชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และ นางทองคำ นุ่มวงษ์ อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.1 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ตนไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาซื้อที่ดินและบ้านคืน ติดต่อลูกชายก็ไม่ได้ เขาหายไปเลยไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร อายุก็มากแล้วแถมมีโรคประจำตัวกันทั้งสองคน ลูกที่อยู่ด้วยกันก็มีอาชีพรับจ้างทำไร่ทำนาก็ไม่มีเงินเช่นเดียวกัน ถ้าบ้านและที่ดินถูกยึดไปตนคงไม่มีที่ไปเพราะแก่แล้วก็ขอตายอยู่ที่นี่
โดยเฉพาะบ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของปู่หลังแต่งงานกับย่า ต่อมาปู่ได้ยกให้นายเชิด พร้อมสั่งว่าให้อยู่ไปตลอดห้ามขายเด็ดขาด แต่ลูกชายกลับนำไปจำนองกับ ธ.ก.ส. หลังจากได้เงินมาแล้วก็ไม่เคยนำเงินไปชำระหนี้ทั้งของ กยศ.จำนวน 130,000 บาท จนถูกฟ้องและถูกบังคับคดี ขายที่ดินและบ้านดังกล่าวไปในราคา 402,000 บาท
กระทั่งมีคนประมูลซื้อไปแล้วและนำมาขายต่อในราคา 800,000 บาท ซึ่งลูกชายได้ติดต่อขอซื้อบ้านพร้อมที่ดินคืน และได้มาทำสัญญาซื้อขายกันที่บ้านหลังนี้ พร้อมทั้งได้จ่ายเงินมัดจำไปจำนวน 20,000 บาท แต่หลังจากนั้นลูกชายก็หายออกไปจากบ้านโดยไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย จนผู้ที่ซื้อกลับมาสอบถามหลายครั้งว่าจะชำระเงินส่วนที่เหลือได้เมื่อไหร่ ซึ่งทางบ้านก็ไม่สามารถให้คำตอบได้เพราะไม่มีเงิน และลูกชายก็หายไป
ต่อมาผู้ที่ซื้อที่ดินและบ้านไปได้ปิดป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมบ้านของตน จึงทำให้ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนซื้อบ้านและที่ดินกลับมา ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้เก่าทรงไทยหลังใหญ่สวยงาม ภายในสวนปลูกไม้ผลไว้หลากหลายชนิด ตนและครอบครัวเสียดายมาก ถ้าถูกขายไปจริงๆตนก็ขอตายที่นี่ไม่ย้ายไปไหนเด็ดขาด อยากวิงวอนผู้ใจบุญที่สามารถช่วยเหลือไถ่ถอนบ้านและที่ดินหลังนี้คืนมาให้ตนด้วย โดยสามารถบริจาคช่วยเหลือตากับยายได้ที่ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาคลองขลุง ชื่อบัญชี นายเชิด นุ่มวงษ์ หมายเลขบัญชี 020103358247
สองตากับยายพูดด้วยน้ำตาว่า หากผู้ใจบุญช่วยเหลือมาจะเก็บเงินไว้อย่างดี ไม่ให้ลูกชายคนที่ก่อเรื่องแม้แต่บาทเดียว เพราะสร้างปัญหาให้เสียใจทั้งครอบครัวมามากมายแล้ว และถ้าลูกชายดูอยู่ก็ให้กลับมาแก้ไขปัญหาด้วย