กำแพงเพชร - สองตายายร่ำไห้..ร้องสื่อตามหาลูกชายตัวดีกู้ กยศ. 130,000 บาท เรียนจบตั้งแต่ปี 43 ไม่บอกพ่อแม่ สุดท้ายโดนยึดทรัพย์ทั้งบ้าน-ที่ดินกว่า 16 ไร่ขายทอดตลาด เจ้าของใหม่ขายคืนให้ 8 แสน แต่ไม่มีเงินซื้อคืน คนต้นเรื่องหายออกจากบ้านอีก
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากสองสามีภรรยา คือ นายเชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และนางทองคำ นุ่มวงษ์ อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.1 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ว่าขอให้เป็นสื่อกลางในการตามหาลูกชายชื่อ นายธนา นุ่มวงศ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/5 ม.1 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา รวม 5 เดือนแล้ว
สองตายายบอกว่า ลูกบอกกับพ่อแม่ว่าจะออกไปหาเงินมาใช้หนี้ กยศ.ที่เขากู้ยืมเรียนในช่วงปี 2543 รวม 130,000 บาท โดยที่ไม่ได้บอก แม้แต่หนังสือทวงหนี้ของ กยศ.ก็ถูกนำไปซ่อนไว้ในห้องไม่ให้เห็น กระทั่งสุดท้ายมีหนังสือจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดกำแพงเพชรประกาศยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่รวม 16 ไร่ 89.9 ตารางวา ที่อยู่รวมกัน 5 ครอบครัว 18 ชีวิต
โดยมีการเคาะขายทอดตลาดไปแล้ว 4 รอบ จนมีผู้ประมูลซื้อไปได้ในราคา 402,000 บาท ต่อมาในวันที่ 3 กันยายน 2563 ผู้ประมูลซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้มาเสนอขายพร้อมทำสัญญาซื้อขายต่อให้ตนกับลูกชายที่บ้านในราคา 800,000 บาท ซึ่งก็ได้ทำสัญญาซื้อขายกันในวันดังกล่าว โดยลูกชายบอกว่าต้องจ่ายมัดจำ 20,000 บาท และเซ็นเอกสารสัญญาซื้อขาย ซึ่งก็เซ็นเอกสารไปโดยไม่รู้ว่าคืออะไร
ต่อมาผู้มาทำสัญญาซื้อขายก็ขอนัดให้ชำระค่าซื้อขายเป็นงวดๆ โดยงวดที่ 1 (2 ต.ค. 63) ต้องชำระ 130,000 บาท งวดที่ 2 (2 พ.ย. 63) ชำระ 130,000 บาท งวดที่ 3 (2 ธ.ค. 63) 120,000 บาท และงวดที่ 4 (14 ธ.ค. 63) งวดสุดท้าย จำนวน 400,000 บาท
โดยระหว่างนั้น (ช่วงกลางเดือน พ.ย. 63) นายธนาได้บอกกับพ่อแม่ว่าจะไปหาเงินมาจ่ายค่าที่ดินและใช้หนี้ ผ่านไปกว่า 5 เดือนก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเงินส่วนต่างที่ทาง กยศ.หักที่กู้ยืมและดอกเบี้ยไป จำนวนกว่า 1 แสนเศษที่ต้องคืนให้ครอบครัวของตายาย แต่เนื่องจากติดต่อนายธนาไม่ได้ จึงไม่สามารถขอรับเงินส่วนต่างที่เหลือได้
และขณะนี้ผู้ประมูลซื้อที่ดินต่อจากสำนักงานบังคับคดีได้นำป้ายมาติดรอบหมู่บ้าน ประกาศขายที่ดินต่อ จำนวน 16 ไร่ 89.9 ตารางวา และโทร.หาเร่งรัดขอเงินงวดเเรกให้รีบจ่าย และหากไม่มีเงินจ่ายก็ขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่
นางทองคำ นุ่มวงษ์ แม่ของนายธนา เล่าว่า ตนไม่รู้เลยว่าลูกหายไปไหน บอกเพียงก่อนไปว่าจะไปทำงานหาเงินมาใช้หนี้เพื่อซื้อที่ดินคืนให้ครอบครัว ซึ่งก็ผ่านไปกว่า 5 เดือนแล้วยังติดต่อไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งตนก็พยายามถามว่าใช้หนี้ กยศ.ที่กู้เรียนแล้วหรือยัง ก็ได้รับคำตอบว่า "แม่ไม่ต้องยุ่งหรอก พิการแบบนี้จะมีปัญญาเอาเงินไหนมาใช้หนี้เขา" จนสุดท้ายรู้อีกทีก็จะโดนยึดที่ดินแล้ว
ตนและสามีก็มีอาการหูหนวก (ไม่ค่อยได้ยิน) แถมยังเป็นคนพิการเดินก็ไม่ไหว ที่มาร้องนักข่าวครั้งนี้ก็อยากให้ช่วยตามหาลูกให้กลับบ้านมาช่วยกันแก้ปัญหา อย่างน้อยก็มาเซ็นรับเงินส่วนต่างที่เหลือเอาไว้ใช้หนี้ซื้อที่ดินคืน เพราะหากโดนไล่ที่ตนยืนยันว่าจะไม่ไปไหน ขอนอนตายที่นี่ วอนเจ้าของที่ที่ซื้อทอดตลาดไปเห็นใจขอประนีประนอมลดราคาให้ตนบ้าง ซึ่งถ้ารู้ก่อนหน้าที่ กยศ.จะยึดที่ดินก็จะขอนำเงินคนพิการและเบี้ยคนชราผ่อนชำระเอง
“เอกสารทวงหนี้ ลูกชายได้เอาไปซ่อนไว้ในห้องโดยดิฉันไม่รู้มาก่อน ยอมรับว่าทุกวันนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ”
นายมารุต เต่าทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.1 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร (หลานชายของตายาย) เล่าว่า ตนพยายามตามหาน้าชาย คือ นายธนา จนสุดความสามารถ ทั้งโพสต์เฟซบุ๊ก และตามหาจากเพื่อนๆ พร้อมขอคำแนะนำต่างๆ จากผู้รู้ก็ไม่พบ ซึ่งหากถูกไล่ที่ตนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องย้ายออก โดยเงินส่วนต่างที่กรมบังคับคดีให้คืนแก่ กยศ. และต้องคืนให้นายธนาส่วนหนึ่ง หากเจ้าตัวไม่มาเช็นรับก็ไม่สามารถนำออกมาได้ จึงอยากวอนขอให้คนที่ซื้อที่ดินไปนั้นช่วยลดราคาและยืดเวลาหาเงินให้ครอบครัวตนเองหน่อย เพราะมันกะทันหันและหาเงินไม่ทัน
นางคณิต ขุนพิลึก อายุ 50 ปี (ลูกสาวคนที่ 7) อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ม.6 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า ตนสงสารพ่อกับแม่มาก อายุก็เยอะแล้ว หากจะย้ายไปที่อื่นก็คงลำบาก ตนก็หาเช้ากินค่ำ หากต้องย้ายออกไปด้วยจากการโดนไล่ที่ก็คงลำบาก อยากให้น้องชายคนเล็กกลับมาดูพ่อแม่บ้าง มาช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่าทิ้งไปแบบนี้เลย