แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ยันไทยช่วยเหลือผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรม-กฎหมายสากล เจรจาให้กลับเมียนมาด้วยความสมัครใจ หลังทะลักข้ามสาละวินเข้าชายแดนกว่า 2,000 คน
วันนี้ (30 มี.ค. 64) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมทางไกล (VTC) ที่ห้องประชุม CAT CONFERENCE สำนักงานบริการลูกค้าแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กรณีที่มีการปฏิบัติการทางทหารระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองทัพเมียนมา ตรงข้ามชายแดน อ.แม่สะเรียง จนเป็นเหตุให้มีผู้หลบหนีภัยการสู้รบ เข้ามาอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสาละวินชายแดนไทย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า มีข้อเท็จจริง 3 ประเด็น คือ 1. สถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ที่ข้ามฝั่งมาตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน จำนวนประมาณ 2,000 คน ได้กระจายตัวตามแนวตะเข็บชายแดน ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และ อ.ขุนยวม (บางส่วน)
ในทางปฏิบัติ กองกำลังนเรศวรได้ดำเนินการดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งเจรจาสร้างความเข้าใจให้ผู้หนีภัยยินยอมเดินทางกลับโดยสมัครใจ ส่วนใหญ่มีความเข้าใจในสถานการณ์ และคลายความกังวล สมัครใจเดินทางกลับ คงเหลือเพียงบางส่วนซึ่งคาดว่าจะเดินทางกลับภายใน 1-2 วันนี้
2. หากแนวโน้มสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น และมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) บางส่วนยังไม่สมัครใจกลับหรือมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเข้ามาเพิ่มเติม ทางจังหวัดจะได้ดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลซึ่งจะได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติต่อไป
กรณีสถานการณ์ยกระดับความรุนแรงขึ้น จังหวัดจะดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ในระดับจังหวัด โดยมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งนี้หากเกินกำลังในระดับจังหวัดจะขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทย
3. กรณีที่มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภ.สม.) ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย ได้เข้ามารักษาพยาบาลเบื้องต้นที่โรงพยาบาล อ.สบเมย 5 ราย, โรงพยาบาลแม่สะเรียง 1 ราย และโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 1 ราย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือ ตามหลักสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อได้ทำการรักษาเสร็จสิ้นตามกระบวนการทางการแพทย์แล้ว จะได้ส่งตัวกลับพื้นที่ปลอดภัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลบางส่วนที่เกินอำนาจหน้าที่ของทางจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่าไม่อาจที่จะให้ข้อมูลส่วนนี้ได้ พร้อมขอให้สื่อเผยแพร่ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยอยู่ในความดูแลของทหารกองกำลังนเรศวร
กรณีที่มีการเข้าไปในพื้นที่ของสื่อ ต้องมีการประสานกับกองกำลังนเรศวรผู้รับผิดชอบพื้นที่ เนื่องจากภาพรวมสถานการณ์ ไม่สามารถให้การรับรองเรื่องความปลอดภัย
“ยืนยันว่าจังหวัดได้เตรียมพื้นที่กักตัวเบื้องต้นแล้วหากมีผู้อพยพเข้ามามากขึ้น รอเพียงความชัดเจนหน่วยเหนือสั่งการเพิ่มเติมเท่านั้น”