แม่ฮ่องสอน - ชาวกะเหรี่ยงอพยพบางส่วน ยังรอริมฝั่งสาละวินข้ามคืน ไม่กล้ากลับหมู่บ้าน หวั่นโดนลูกหลง KNU ปะทะทหารเมียนมา หลัง จนท.ไทยดันกลับ-วางลวดหนามกั้น
ผลกระทบของการสู้รบกันระหว่างกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU กับทหารเมียนมา ฐานที่มั่นฝั่งตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ชาวกะเหรี่ยงต้องอพยพหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาในเขตไทยอย่างต่อเนื่อง รวมหลายพันคนแล้ว
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (29 มี.ค. 64) มีรายงานว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 กองร้อยที่ 3604 และเจ้าหน้าที่ ได้ผลักดันผู้หนีภัยบางส่วนราว 500 คน กลับฝั่งเมียนมา และให้เหตุผลกับชาวบ้านว่าไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าชาวบ้านจะพยายามต่อรองขอหลบภัยต่อไปก่อน จนกว่าจะแน่ใจว่าหมู่บ้านของตนเองปลอดภัยแล้วจึงจะเดินทางกลับ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ชาวบ้านจึงต้องรีบย้ายออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำแนวรั้วลวดหนามกั้นตลอดแนวป้องกันการลักลอบเข้ามาไว้ด้วย
ล่าสุด เช้าวันนี้ (30 มี.ค.) มีรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวกะเหรี่ยง KNU ที่ถูกผลักดันกลับออกไปนั้น ยังคงอาศัยหลบภัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำสาละวินเขตเมียนมา โดยเฉพาะกลุ่มของเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ยังไม่ได้เดินทางกลับหมู่บ้าน-ชุมชนตัวเอง ต่างพากันหลบตามแนวซอกหิน-แนวพื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัย เนื่องจากส่วนมากยังไม่มั่นใจเรื่องของความปลอดภัย และเกรงว่าหมู่บ้านจะโดนถล่มซ้ำ
ในส่วนของผู้หนีภัยกลุ่มใหญ่นั้น ทางฝ่ายไทยยังให้การดูแล และรอความชัดเจนจากกองทัพบก-กระทรวงมหาดไทย ที่จะหารือถึงแนวทางการดำเนินการแล้วสั่งการมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกครั้งหนึ่ง เพราะจุดแรกรับที่มีผู้หนีภัยการสู้รบรวมตัวกันอยู่จำนวนมากนั้นเริ่มประสบกับปัญหาเสบียงอาหารไม่เพียงพอ
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่อิทธิพลของกะเหรี่ยง KNU นั้น มีรายงานว่าหลังจากที่วานนี้กองทัพเมียนมาได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดลงในย่านชุมชน และทำความเสียหายกับอาคารเรียนของโรงเรียนมัธยมนั้น ทางกำลังทหารที่ยังคงรักษาฐานที่มั่นก็ยังรักษาพื้นที่และทำการตอบโต้มาเป็นระยะๆ
