แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เผยแนวทางรับมือผู้หนีภัยจากการสู้รบฝั่งเมียนมา หลังกองทัพพม่าส่งเครื่องบินรบบินวนพื้นที่ปะทะชนกลุ่มน้อย KNU หลายรอบ คาดทำกะเหรี่ยงอพยพหนีตายข้ามสาละวินเข้าไทยเพิ่ม
วันนี้ (29 มี.ค. 64) นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU บริเวณฐานชิกอท่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จนมีผู้หลบหนีภัยการสู้รบขอหนีภัยเข้ามายังเขตไทยต่อเนื่อง รวมกว่า 2,000 คนแล้ว
ล่าสุดในช่วงบ่ายนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนด้าน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย-บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม และด้านตรงข้ามกับ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้แจ้งทางอำเภอฯ ว่ายังพบเห็นเครื่องบินของทหารเมียนมาบินวนเวียนอยู่หลายรอบ ยิ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่กำลังนั่งเรือข้ามหลบหนีข้ามเข้าฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ระบุว่า ขณะนี้ทางจังหวัดต้องเตรียมความพร้อมไว้ทุกๆ ด้าน เนื่องจากชาวบ้านจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบจากการสู้รบข้ามฝั่งเข้ามาหลบภัยที่ในเขตประเทศไทย ณ เวลานี้ถือว่าเราได้ตั้งจุดแรกรับอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังนเรศวร ซึ่งจะต้องผ่านการดำเนินการอีกหลายมาตรการ ทั้งด้านความปลอดภัย และมาตรการทางสาธารณสุข
โดยหากสอบสวนแล้วหากเป็นความตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว จะขอความร่วมมือให้กลับเข้าไปในที่อยู่อาศัยเดิม แต่ถ้าหากจะได้รับผลกระทบถึงขั้นเสี่ยงต่อชีวิต จะดูแลไว้ในห้วงระยะเวลาหนึ่งตามหลักมนุษยธรรม ตอนนี้ผู้อพยพยังอยู่ในการดูแลของทหารและยังไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยฝ่ายทหารก็ต้องดำเนินการตามมาตรการของสาธารณสุขด้วย
อย่างไรก็ตาม แนวทางการดำเนินการ ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งซึ่งจะมีการประชุมทางไกลในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) ไปยังจังหวัดที่มีแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่มีแนวชายแดนติดกับเมียนมา เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติต่อไป ซึ่งตลอดแนวพรมแดนของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ติดต่อกับเมียนมามีความยาวกว่า 483 กิโลเมตรอยู่ในการดูของทหารตลอดแนว มีกำลังทหารประจำการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว
ส่วนจำนวนผู้หลบหนีภัยการสู้รบที่เข้ามาในเขตไทยยังไม่ชัดเจน ทางทหารอยู่ในระหว่างตรวจสอบ แต่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้นายอำเภอแต่ละอำเภอประสานงานกับฝ่ายทหารอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยตามแนวชายแดนแล้ว
