กาญจนบุรี - 14 แรงงานชายหญิงชาวพม่าหวังมุ่งหน้าไปทำงานที่ กทม.และจังหวัดชั้นใน ยอมจ่ายค่าหัว 12,000-16,000 บาท โดนนายหน้าชาติเดียวกันทิ้งกลางป่าสังขละบุรี สุดท้ายโดนรวบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.กฤชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.อ.จักร ยังให้ผล ผกก.ตม.จ.กาญจนบุรี (บก.ตม.3) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด รวมทั้งลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่า ประกอบด้วย อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.เมืองกาญจนบุรี และ อ.ด่านมะขามเตี้ย โดยเฉพาะการลักลอบนำพาแรงงานชาวพม่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด วันนี้ (27 มี.ค.) พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทหารชุดหมวดลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 3 ประจำจุดกรวดน้ำเกริ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทหารชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ว่า มีแรงงานชาวพม่าจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าเพื่อรอการเคลื่อนย้ายอยู่ที่ซอย ร.ร.ลาซาล สังขละบุรี
หลังรับแจ้งจึงได้สนธิกำลังเดินทางไปตามเส้นทางตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงบริเวณสวนส้มโอภายในซอย ร.ร.ลาซาลสังขละบุรี พบมีแรงงานชาวพม่านอนพักหลบอยู่ที่กระท่อมสภาพเก่า เจ้าหน้าที่จึงทำการแสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจสอบพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 6 คน แยกเป็นสัญชาติพม่า เชื้อชาติมอญ 7 คน และเชื้อสายพม่า 7 คน
หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจวัดอาการไข้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลการตรวจพบอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศา แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปตรวจอาการไข้ที่ รพ.สังขละบุรี อีกครั้งหนึ่ง
จากการซักถามผู้ต้องหาได้ให้การว่า เดินทางมาจาก จ.เมาะละแหม่ง จ.ปะโค จ.ตะโถ จ.ตาบิวเซยัด ประเทศพม่า โดยก่อนหน้านี้แรงงานทั้งหมดได้ติดต่อนายหน้าที่อยู่ฝั่งประเทศพม่าผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ทราบชื่อนายหน้าคือ นายวี เป็นชาว จ.ละไม และได้นัดมารวมตัวกันที่ อ.พญาตองซู ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันที่ 26 มี.ค.64 ที่ผ่านมา
จากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันเดียวกัน มีผู้นำพาเป็นชายวัยรุ่นชาวพม่า ไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คน มาพบพร้อมกับนำพาเดินข้ามชายแดนเข้ามาฝั่งไทย โดยเดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติบริเวณเส้นทางรถไฟสายเก่าที่อยู่ติดกับวัดพิมละม่อม
จากนั้นเดินข้ามลำห้วยซองกาเรีย แล้วไปซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ส่วนผู้นำพาได้เดินทางกลับพร้อมกลับแจ้งให้กลุ่มแรงงานทราบว่า จะกลับมาพร้อมกับนำรถยนต์มารับเพื่อไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน โดยเป้าหมายการทำงานคือที่ กทม.จำนวน 6 คน สมุทรสาคร จำนวน 3 คน สุพรรณบุรี จำนวน 1 คน นครปฐม จำนวน 4 คน
โดย 1 ใน 14 แรงงานที่ถูกจับกุมรู้จักนายจ้างและสถานที่ที่จะไปทำงาน แต่แรงงานอีก จำนวน 13 คน ไม่รู้จักนายจ้างและสถานที่ทำงาน และที่สำคัญทั้ง 13 รายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องไปทำงานอะไร แต่จะต้องจ่ายเงินให้นายหน้าชาวพม่าด้วยกันเป็นเงินจำนวน 12,000-16,000 บาท เมื่อไปถึงที่ทำงานนายจ้างจะเป็นคนจ่ายให้
หลังจากกลุ่มแรงงานให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนที่จะส่งให้ ตม.ผลักดันกลับประเทศต่อไป