xs
xsm
sm
md
lg

รวบแรงงานพม่า-โรฮิงญา 33 คน ถูกทิ้งกลางป่าสังขละฯ แฉนายหน้าชาติเดียวกันพาลอบเข้าไทยกินหัวคิวคนละ 2 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - รวบ 24 แรงงานชาวพม่า 9 โรฮิงญา ถูกทิ้งกลางป่าสังขละบุรีในสภาพอิดโรยมอมแมม อ้างนายหน้าชาติเดียวกันนำพาลอบเข้าไทย เป้าหมาย 6 จังหวัด คิดหัวคิวคนละ 14,000-16,000 บาท ส่วน 9 โรฮิงญา รับจ่ายหัวละ 20,000 บาท ผ่านไทยมุ่งหน้ามาเลเซีย

เช้าวันนี้ (6 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัวแรงงานสัญชาติพม่า 33 คน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่กลางป่าบริเวณเส้นทางธรรมชาติหินสามก้อน บ้านซองกาเรีย หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่พิกัด MS398809 จากสภาพของทุกคนค่อนข้างอิดโรย เนื้อตัวมอมแมม คาดว่าไม่ได้กินข้าวและอาบน้ำมานานหลายวัน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่คุมตัวแรงงานทั้งหมดมาถึง สภ.สังขละบุรี จึงได้สั่งซื้อข้าวและน้ำมาให้ทุกคนได้ดื่มกินตามหลักมนุษยธรรม 

จากการตรวจสอบพบว่า แรงงานสัญชาติพม่าทั้ง 33 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 17 คน 2 ใน 17 คนที่เป็นหญิงมีอายุเพียง 3 ขวบ และอายุ 11 เดือน โดยแยกเป็นบุคคลเชื้อชาติมอญ จำนวน 7 คน กะเหรี่ยง จำนวน 14 คน พม่า 3 คน และที่สำคัญมีชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาจากเมืองยะไข่ จำนวน 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 5 คน

ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานชาวพม่า จำนวน 24 คน มีจุดหมายที่จะไปทำงานกับนายจ้างในพื้นที่ จ.ราชบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และ กทม.โดยจะต้องจ่ายค่าหัวให้นายหน้าที่เป็นเป็นชาวพม่าด้วยกันคนละ 14,000-16,000 บาท ราคาค่าหัวขึ้นอยู่กับระยะทางการเดินทางใกล้หรือไกล ส่วนชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาจากเมืองยะไข่ จำนวน 9 คน มีจุดมุ่งหมายที่จะเดินทางผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย โดยจะต้องจ่ายค่าหัวให้นายหน้าเป็นเงินคนละ 20,000 บาท

พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เปิดเผยว่า สำหรับพฤติการณ์ก่อนการจับกุมในครั้งนี้นั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย กำลังหลบซ่อนตัวอยู่กลางป่าหุบเขา ท้องที่หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี

หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานทราบ จากนั้นจึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบบริเวณพิกัดตามที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งพบและสามารถจับกุมตัวแรงงานจำนวนข้างต้นเอาไว้ได้

จากการซักถาม 1 ในผู้ต้องหาที่สามารถพูดไทยได้ ให้การว่า ตนกับพวกได้ติดต่อกับนายหน้าชาวพม่าด้วยกันเพื่อให้นำพาข้ามชายแดนมายังฝั่งไทยด้วยการใช้โทรศัพท์ จากนั้นก็ได้มีการนัดหมายให้มารวมตัวกันที่กิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า ที่อยู่ตรงข้ามกับประเทศไทยบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู โดยทุกคนได้มารวมตัวกันตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา ช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค.นายหน้าชาวพม่าที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ได้มาพบพวกตน โดยมาด้วยกัน จำนวน 4 คน จากนั้นได้เดินหน้านำพาพวกตนข้ามมายังฝั่งไทย ด้วยใช้การเดินเท้ามาตามเส้นทางธรรมชาติบริเวณเส้นทางรถไฟเก่าข้างวัดพิมละม่อม

จากนั้นเดินเท้าไปตามชายป่าที่เป็นหุบเขาเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย แล้วเดินข้ามลำน้ำซองกาเรีย เมื่อมาถึงจุดถูกจับกุม นายหน้าชาวพม่าสั่งให้พวกตนหลบอยู่ภายในป่า แล้วจะมีคนขับรถยนต์มารับเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานตามจังหวัดเป้าหมาย หลังจากนั้นนายหน้าชาวพม่าก็เดินทางกลับประเทศ แต่ยังไม่มีใครขับรถยนต์มารับพวกตนจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้

จากการตรวจวัดอาการไข้ของแรงงานทั้ง 33 ราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น ผลการตรวจอุณหภูมิเป็นปกติ ไม่มีใครอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา แม้แต่รายเดียว แต่เพื่อความไม่ประมาท เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวแรงงานทั้ง 33 รายไปตรวจร่างกายอีกครั้งหนึ่งที่ รพ.สังขละบุรี จากนั้นได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.มงคล เกิดไทยดี สว.(สอบสวน) สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น