กาญจนบุรี - ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวบ 35 แรงงานชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง พบเป็นโรฮิงญาถึง 22 คน โดยใช้เส้นทางจาก อ.พญาตองซู ไปตามเส้นทางข้างบ้านบ่อญี่ปุ่น และไปต่อตามเส้นทางธรรมชาติไปยังห้วยซองกาเรีย
วันนี้ (20 มี.ค.) พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ทหารหมวดลาดตระเวนที่ 3 (มว.ลว.ที่ 3) จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก 4 ทำการลาดตระเวน ร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าว ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ (ชป.ข่าว กกล.สุรสีห์) และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ไปตามเส้นทางธรรมชาติจาก บ้านซองกาเรีย-บ้านห้วยกบ
เมื่อเดินลาดตระเวนไปถึงบริเวณเส้นทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น-บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งห่างจากห้วยซองกาเรีย ประมาณ 3 กม. พบชายวัยรุ่นกำลังยืนคุยโทรศัพท์ทำท่าทางต้องสงสัย จึงเข้าตรวจสอบ ต่อมา พบว่าเป็นผู้นำพา โดยบริเวณใกล้กันพบแรงงานชาวพม่าเป็นจำนวนมากนั่งหลบแดดอยู่บริเวณใต้กอไผ่ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามผู้นำพาจนทราบว่า มีผู้นำพาอีก 1 คนกำลังเดินไปดูต้นทางจึงให้ผู้นำพาคนแรกโทรศัพท์หลอกให้กลับมาที่บริเวณใต้กอไผ่ เมื่อผู้นำพาคนที่ 2 เดินกลับมา แต่พบเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน เนื่องจากผู้หลบหนีชำนาญเส้นทาง
เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ จำนวน 35 คน เป็นชาวพม่า จำนวน 13 คน และเป็นชาวโรฮิงญา จำนวน 22 คน พร้อม นายแง ไม่มีนามสกุล อายุ 19 ปี สัญชาติพม่า ไม่มีบัตรประจำตัวเป็นผู้นำพา
จากการซักถาม นายแง ผู้นำพาให้การว่า รับการว่าจ้างจาก นายจออู นายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าวฝั่ง อ.พญาตองซู ประเทศพม่า ให้ตนและเพื่อนเป็นคนเดินนำทางพาบุคคลต่างด้าวเข้าประเทศไทย โดยใช้เส้นทางจาก อ.พญาตองซู ไปตามเส้นทางข้างบ้านบ่อญี่ปุ่น และไปต่อตามเส้นทางธรรมชาติไปยังห้วยซองกาเรีย แล้วจะมีรถมารับแรงงานต่างด้าว โดยรถที่มารับทราบชื่อคือ นายโทน และนายต้น เป็นวัยรุ่นพักอาศัยอยู่หลังซอยศุลกากร สี่แยกซองกาเรีย สำหรับการนำพาครั้งนี้ตนได้ค่าจ้างเป็นเงิน 1,500 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พร้อมนายแง ผู้นำพาออกจากบริเวณพื้นที่ป่าเส้นทางธรรมชาติ เพื่อทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พบทั้งหมดมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ก่อนจะทำการสอบสวนขยายผล และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป