เชียงใหม่ - ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ระบุสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการบิน ย้ำพร้อมรับมือกรณีเกิดสภาวะทัศนวิสัยต่ำ โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้ว
วันนี้ (11 มี.ค. 64) นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่ปกคลุมเหนือพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ส่งผลต่อคุณภาพอากาศและทัศนวิสัยการมองเห็นลดลงว่า สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการบิน โดยหอบังคับการบินแจ้งทัศนวิสัยการมองเห็นในเขตการบิน (RVR : Runway visual range) อยู่ที่ระยะประมาณ 3,000-5,000 เมตร ซึ่งถือว่ายังไม่เข้าสู่สภาวะทัศนวิสัยต่ำ (Low-Visibility) ที่จะมีผลต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดฝึกซ้อมเพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติกรณีการเกิดสภาวะทัศนวิสัยต่ำ (Low-Visibility) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หอบังคับการบินเชียงใหม่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ สายการบิน ผู้ประกอบการและผู้ที่ปฏิบัติงานในเขตการบินเป็นประจำทุกปี และกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน
โดยมีการแจ้งเตือนการเกิดสภาวะทัศนวิสัยต่ำ (Low-Visibility) เป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับการแจ้งเตือนก่อนเข้าสู่สภาวะทัศนวิสัยต่ำ (LVC Warning) มีค่า RVR ตั้งแต่ 800 เมตร จะมีการเปิดสัญญาณเสียงแจ้งเตือนสภาวะทัศนวิสัยต่ำ พร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานในเขตลานจอดอากาศยานปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
2. ระดับปฏิบัติการทัศนวิสัยต่ำ (LVC Phase A) มีค่า RVR ต่ำกว่า 550 เมตร แต่ไม่ต่ำกว่า 100 เมตร จะมีการเปิดสัญญาณเสียงและไฟสีส้มกะพริบ Warning Light แจ้งเตือนสภาวะทัศนวิสัยต่ำ พร้อมทั้งนำรถ Follow Me ประกาศแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานในเขตลานจอดอากาศยานให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง หากมีการขับขี่ยานพาหนะผู้ขับขี่ยานต้องเปิดไฟหน้ารถแสงพุ่งต่ำ ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 20 กม./ชม. ในเส้นทางยานพาหนะ และไม่เกิน 10 กม./ชม. ในเขตลานจอดอากาศยาน
3. ระดับทัศนวิสัยเลวร้าย (LVC Phase B) มีค่า RVR ต่ำกว่า 100 เมตรหรือระยะสายตามองเห็น 1 หลุมจอด จะมีการเปิดสัญญาณเสียงและไฟสีขาวกะพริบ Warning Light แจ้งเตือนสภาวะทัศนวิสัยต่ำมาก พร้อมทั้งนำรถ Follow Me ประกาศแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานในเขตลานจอดอากาศยานให้หยุดการปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ติดตั้งเครื่องพ่นละอองฝอยตลอดแนวหน้าอาคารผู้โดยสาร พร้อมทั้งนำรถดับเพลิงออกฉีดพ่นละอองน้ำภายในเขตการบิน และบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสาร วันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและช่วงบ่าย เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบเพื่อช่วยฟอกอากาศและกรองฝุ่นละออง ตลอดจนปลุกจิตสำนึกให้พนักงานตระหนักถึงการลดมลพิษในอากาศ ด้วยการบำรุงรักษาตรวจสอบสภาพยานพาหนะของตนเองและยานพาหนะที่ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งรณรงค์ให้ใช้รถจักรยานมาทำงานแทนการใช้รถยนต์สำหรับผู้ที่พักอาศัยในบ้านพักพนักงาน