กาญจนบุรี - ประชาชนแห่ชม และชิมน้ำพุบาดาลโซดาคึกคักเกือบ 3,000 คน ด้าน ผอ.สำนักน้ำบาดาล เขต 2 เผยเตรียมเจาะน้ำบาดาลช่วยภัยแล้งที่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ อีกแห่ง คาด 4-5 เดือนให้บริการประชาชนได้ ส่วนน้ำพุบาดาลโซดา หลังจากโครงการเสร็จสมบรูณ์ ยกให้จังหวัดและท้องถิ่นนำไปดูแลพัฒนา
วันนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากตรงกับวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศได้เดินทางเป็นหมู่คณะและครอบครัว เพื่อเที่ยวชมพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อนที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เจาะพบบ่อน้ำพุบาดาลโซดา ตั้งอยู่พื้นที่บ้านสระตาโล หมู่ 12 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ที่ใช้สำหรับแก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากให้แก่ชาวตำบลห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จำนวน 2 บ่อ กันอย่างเนืองแน่น
โดยนักท่องเที่ยวต่างต่อคิวลงทะเบียนเพื่อเข้าไปทดลองดื่มน้ำพุที่มีรสชาติซ่าคล้ายโซดา ด้วยการใช้แก้วกระดาษที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีรสชาติซ่าคล้ายโซดาตามที่เป็นข่าวจริงๆ โดยหลังจากทุกคนได้ทดลองดื่มน้ำที่ยังไม่ได้กรองแล้วเสร็จ จึงไปต่อคิวโรงจ่ายน้ำเพื่อรอรับน้ำแร่โซดาที่ผ่านกรรมวิธีการคัดกรองในทุกขั้นตอนที่ได้มาตรฐานน้ำดื่มที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร
โดยจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้นำขวดขนาดบรรจุ 500 ซีซี มาแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปกรอกน้ำด้วยตนเอง โดยมีนายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) พร้อมเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบเว้นระยะห่าง และทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข
โดยตลอดทั้งวันที่ผ่านมา คาดว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาทดลองดื่นน้ำแร่โซดาประมาณ 2,000-3,000 คน สำหรับร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 100 ร้านค้า ประชาชนได้เข้าไปเลือกซื้ออาหาร น้ำดื่ม ผัก ผลไม้กันเป็นจำนวนมากทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ไม่แพ้ตลาดนัดต่างๆ ที่อยู่ทั่วไป ส่วนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ คาดว่าจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำแร่ดิบ และน้ำแร่โซดาที่ผ่านการกรองไปตรวจสอบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้ช่วยกันวิเคราะห์คุณภาพน้ำว่าคุณภาพน้ำของเราที่ผ่านการกรองที่ดีสามารถดื่มได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่มารับน้ำที่นี่
ส่วนโรงกรองน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลของเรามีแล็บใหญ่อยู่ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเรามีแล็บเคลื่อนที่ที่มาวิเคราะห์น้ำในพื้นที่ รวมทั้งมีแล็บอยู่ที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) โดยแล็บทั้ง 3 พื้นที่เราได้มีการวิเคราะห์คุณภาพน้ำอยู่เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนที่มารับน้ำที่นี่
หลังจากที่เราเจาะน้ำบริเวณนี้ได้ 3 บ่อ ซึ่งเป็นบ่อที่มีคุณภาพน้ำที่ดี หลังจากดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ จนแล้วเสร็จ ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะส่งมอบให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี เข้ามาดูแลรับผิดชอบในการที่จะนำไปพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือเพื่อสุขภาพในอนาคต สำหรับประชาชนที่จะได้รับประโยชน์ในการทำระบบประปา ประกอบด้วย ชาวตำบลห้วยกระเจา จำนวน 10 หมู่บ้าน และชาวตำบลบ่อพลอย ประมาณ 2-3 หมู่บ้าน
ตามโครงการเดิมเราจะไปเจาะหาแหล่งน้ำในพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเป็นไปตามโครงการที่เราดำเนินการอยู่คือ โครงการหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่พี่น้องประชาชนชาวตำบลห้วยกระเจา ซึ่งขณะนี้เราเจาะบ่อบาดาลเพิ่มอีกจำนวน 4 บ่อ ในความลึกกว่า 300 เมตร ปริมาณน้ำที่ได้มีมากพอสมควร แต่ยังอยู่ระหว่างการสำรวจและเจาะสำรวจ
นายทนงศักดิ์ เผยอีกว่า สำหรับโครงการเจาะบาดาลเพื่อหาแหล่งน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้วในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เราไม่ได้ดำเนินโครงการเฉพาะที่ตำบลห้วยกระเจาเท่านั้น โดยเราได้ดำเนินโครงการในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย อ.เลาขวัญ อีกพื้นที่หนึ่ง ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวเราได้ดำเนินโครงการมาก่อนพื้นที่ตำบลห้วยกระเจา ซึ่งขณะนี้เราได้เจาะบ่อเสร็จไปแล้ว แต่อยู่ระหว่างกระบวนการที่จะจัดทำระบบที่จะก่อสร้างระบบเก็บน้ำ และระบบกระจายน้ำ คาดว่าอีกประมาณ 4-5 เดือนคงจะแล้วเสร็จ สำหรับบ่อในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย เจาะลึกลงไป 200 เมตร ปริมาณน้ำที่ได้มีเป็นจำนวนมากแต่น้ำไม่พุ คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทั้งตำบล