หนองคาย - ผู้การฯ หนองคายยืนยันตำรวจไม่มีเอี่ยว ไม่มีซูเอี๋ยกับ นรข. หลังฝ่ายปกครองขัดแย้ง นรข.จับยาบ้า 2 ล้านเม็ด ย้ำการแก้บันทึกจับกุม นรข.แก้เองตำรวจ 3 นายที่มีชื่อแค่ชุดขยายผลไม่ได้ร่วมจับกุม ออกหมายจับแล้ว 3 คน รวม “จ่ากุ้ง” ที่กำลังหลบหนี
จากกรณีที่มีฝ่ายปกครอง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ป.คดีข้อขัดแย้งระหว่างฝ่ายปกครอง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กล่าวหาเจ้าหน้าที่ นรข.หนองคาย แย่งยาบ้าของกลาง 2 ล้านเม็ด โดยในวันนี้ (22 ก.พ. 64) มีการกล่าวอ้างว่าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย สั่งการให้ผู้กำกับการ สภ.ท่าบ่อ เปลี่ยนแปลงแก้ไขบันทึกจับกุม มีการข่มขู่ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจเข้าข้าง นรข.
พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จ.หนองคาย เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 64 เจ้าหน้าที่ นรข.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คนหลบหนี มีการทำบันทึกจับกุมภายในสถานีเรือ นรข. และนำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ ในวันที่ 12 ม.ค. 64 ซึ่งในรูปแบบการทำงานบูรณาการนั้น ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผู้บังคับบัญชา หากมีผู้ต้องหาหลบหนีต้องขยายผลจับกุม ในวันนั้นมีตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ท.สุริยะ เต่าทอง รอง ผกก.สส.กก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ภัควัฒน์ วันสนุก รองผกก.สภ.บ้านเดื่อ และ พ.ต.ท.เหรียญชัย ศรีเชียงสา สว.สส.
ทั้ง 3 นายเป็นตำรวจชุดสืบสวนขยายผลของทางจังหวัด ก็ได้เข้าไปหาข้อมูลเพื่อขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีแต่ไม่ได้ร่วมจับกุมในขณะเกิดเหตุ ทางผู้ทำบันทึกจับกุมของ นรข.เข้าใจว่าตำรวจทั้ง 3 นายจะมาขอลงชื่อชุดจับกุม จึงใส่รายชื่อเข้าไปในบันทึกจับกุมด้วย และในวันถัดมาได้ติดตามให้ตำรวจทั้ง 3 นายมาเซ็นชื่อในบันทึกจับกุม
ทั้ง 3 นายจึงขอให้ตัดรายชื่อออกเพราะไม่ได้เป็นผู้จับกุมด้วย ดังนั้นทาง นรข.จึงทำการเปลี่ยนแปลงบันทึกจับกุมในวันที่ 20 ม.ค. 64 ซึ่งสามารถแก้ไขได้เพียงรายละเอียดธุรการเล็กน้อยเท่านั้น โดยตนไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการจับกุมแต่อย่างใด
หลังจากนั้นในวันที่ 12 ก.พ. 64 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้มาติดตามความคืบหน้าและได้กำชับแนวทางปฏิบัติงานให้ดำเนินการตามขั้นตอน และในการดำเนินการหลังจากได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ตำรวจได้ขอหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมในคดีนี้อีก 2 คน คือ จ่าเอก อนุชิต มะลิหอม หรือจ่ากุ้ง เจ้าหน้าที่ นรข. อายุ 32 ปี และนายออมทรัพย์ เอี่ยมแฟง อายุ 23 ปี ในข้อหา ร่วมกับพวกที่หลบหนีนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกับพวกที่หลบหนีนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกับพวกที่หลบหนีนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
และร่วมกับพวกที่หลบหนีนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ข้อหาที่แจ้งทั้งต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นข้อหานำเข้ายาเสพติด ทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อให้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนมาร่วมทำการสอบสวน ตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายคดีให้รองอัยการจังหวัดหนองคายเป็นพนักงานฝ่ายอัยการสอบสวนแล้วด้วย